อย่าเข้าใจเราผิดนะ เครื่องสแกนก็มีประโยชน์ในการอัปโหลดเอกสารกระดาษไปยังพีซีของคุณ...แต่ถ้าคุณกำลังเดินทางหรือไม่ต้องการลงทุนกับสแกนเนอร์ที่ไม่ค่อยได้ใช้ล่ะ
การสแกนผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่เป็นทางออกที่รวดเร็วและคุ้มค่าในการแปลงเอกสารกระดาษให้เป็นไฟล์ดิจิทัล คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องสแกนที่เชื่อถือได้เพื่อจับภาพเอกสารสำคัญ ใบเสร็จรับเงิน และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายทุกที่ทุกเวลา
ไม่ว่าคุณจะเดินทางหรือเพียงต้องการจัดระเบียบ มาดูวิธีสแกนเอกสารอย่างรวดเร็วและง่ายดายด้วย iPhone หรืออุปกรณ์ Android ของคุณกัน ไม่มีเครื่องสแกนก็ไม่เป็นไร
ฉันควรใช้เครื่องสแกนเอกสารเมื่อใด
ถึงแม้โลกทุกวันนี้จะเปลี่ยนไปเป็นดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ เอกสารกระดาษก็ยังมีความจำเป็นอยู่ แต่คงไม่มีใครอยากหอบกระดาษกองโตไปด้วยทุกที่
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือการทำงานก็ตาม คุณสามารถใช้และควรใช้เครื่องสแกนเอกสารเพื่อทำสิ่งต่อไปนี้
- ปกป้องสิ่งที่ไม่สามารถทดแทนได้จากความเสียหายหรือการสูญหาย เช่น ภาพถ่ายเก่าๆ จดหมายที่เขียนด้วยลายมือ หรือเอกสารทางกฎหมาย
- เข้าถึงและแชร์เอกสารได้อย่างง่ายดายจากทุกที่ด้วยสำเนาดิจิทัล
- ลดพื้นที่ทางกายภาพของคุณด้วยการแปลงเป็นเอกสารดิจิทัล
- สร้างการสำรองข้อมูลดิจิทัลของเอกสารสำคัญเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
- ค้นหาข้อมูลเฉพาะภายในเอกสารที่สแกนได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ฟังก์ชันการค้นหา OCR
เอกสารทั่วไปที่มีการสแกน ได้แก่
- ส่วนบุคคล: ภาพถ่าย สูติบัตร หนังสือเดินทาง กรมธรรม์ประกันภัย ใบขอคืนภาษี บันทึกการรักษาพยาบาล และพินัยกรรม
- มืออาชีพ: สัญญา ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน นามบัตร และเอกสารโครงการ
- วิชาการ: บันทึก เอกสารวิจัย ใบรับรอง และหนังสือเรียน
การสแกนคอลเลกชันภาพถ่ายของคุณเป็นวิธีที่ผู้คนนิยมใช้ในการเก็บภาพความทรงจำและแชร์ในรูปแบบดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีการสแกนที่ทันสมัย คุณสามารถเปลี่ยนภาพพิมพ์ที่คุณรักให้เป็นภาพดิจิทัลคุณภาพสูงได้อย่างง่ายดาย วิธีนี้เป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบในการอัปโหลด จัดระเบียบ และแชร์ภาพถ่ายครอบครัว

เรียนรู้วิธีการสแกนเอกสารลงคอมพิวเตอร์โดยใช้อุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ
สมาร์ทโฟนของคุณเป็นมากกว่าอุปกรณ์สื่อสาร เราสามารถใช้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังสำหรับการเพิ่มผลผลิตได้ ด้วยแอปและเทคนิคที่เหมาะสม คุณสามารถแปลงเอกสารกระดาษให้เป็นไฟล์ดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย
แทนที่จะรวบรวมเอกสารแล้วนำไปเครื่องถ่ายเอกสาร ตอนนี้คุณมีสามทางเลือก
1. ถ่ายภาพเอกสารของคุณ
คุณสามารถใช้กล้องในโทรศัพท์ถ่ายภาพเอกสารของคุณได้ วิธีนี้อาจเป็นวิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุด แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ประการแรก วิธีนี้ไม่ได้ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ ประการที่สอง การเก็บรูปภาพไว้ในโทรศัพท์ของคุณเพียงที่เดียวอาจทำให้ใช้งานบนอุปกรณ์หลายเครื่องได้ยาก และยังได้ภาพที่มีคุณภาพสูงแบบเดียวกับเอกสารกระดาษได้ยากกว่าด้วย สุดท้ายอาจทำให้เสียเวลาได้ หากว่าต้องถ่ายภาพเอกสารซ้ำแล้วซ้ำอีก
2. ถ่ายภาพ…แล้วใช้แอปสแกน
แอปพลิเคชันสแกนเอกสารเป็นตัวเลือกที่ดีในการแปลงรูปภาพให้เป็นเอกสารสแกนคุณภาพสูง จากนั้นคุณสามารถบันทึกหรือส่งรูปภาพเป็น PDF, PNG, JPG, tiff หรือไฟล์ประเภทใดก็ได้ที่คุณต้องการ ซึ่งเป็นการเปิดโลกสู่วิธีการใหม่ๆ ในการสแกนเอกสารในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องเดินทางไปที่ร้านพิมพ์เอกสาร ห้องสมุด หรือสำนักงาน คุณสามารถใช้วิธีนี้กับเอกสารสแกนใหม่ๆ ได้เช่นเดียวกับเอกสารสแกนเก่า
3. เพียงสแกนด้วยแอปสแกน
ฟังก์ชันสแกนเนอร์เอกสารของ Dropbox มีคุณสมบัติและการรักษาความปลอดภัยให้คุณนอกเหนือจากการถ่ายภาพ แต่สามารถทำได้ง่ายเหมือนกัน
แอปนี้ช่วยให้คุณสามารถสแกนไฟล์ไปยังบัญชี Dropbox ของคุณได้โดยตรงโดยใช้กล้องของอุปกรณ์ โดยคุณสามารถเข้าถึงเอกสารนั้นได้จากโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าคุณจะใช้ iOS หรือ Windows ก็ตาม
คุณยังสามารถถ่ายภาพเอกสารสแกนซ้ำได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแรก จึงค่อนข้างมีประโยชน์เมื่อคุณมีเอกสารกองโต นอกจากนี้ คุณยังไม่ต้องกังวลว่าเอกสารจะสูญหายหรือเสียหายอีกต่อไป เพราะมีโซลูชันการสำรองข้อมูล iPhone ที่ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน

วิธีสแกนเอกสารบน iPhone
การใช้แอปโน้ต
- เปิดแอปโน้ตบน iPhone ของคุณ
- สร้างโน้ตใหม่หรือเปิดโน้ตที่มีอยู่
- แตะไอคอนกล้องแล้วเลือก “สแกนเอกสาร”
- จัดเอกสารให้อยู่ในมุมมองของกล้อง แอปจะจับการสแกนโดยอัตโนมัติ
- ปรับมุมหากจำเป็น จากนั้นบันทึกการสแกนลงในโน้ตของคุณ
แม้ว่าแอป Notes จะสะดวกสำหรับการสแกนอย่างรวดเร็ว แต่คุณสามารถทำได้มากกว่านั้นอีกมากเมื่อคุณใช้ Dropbox เพื่อสแกนไฟล์ของคุณ
การใช้แอป Dropbox
ฟังก์ชันเครื่องสแกนเอกสารของ Dropbox มีคุณสมบัติและความปลอดภัยมากกว่าการถ่ายภาพ นี่คือวิธีการใช้งาน
- เปิดแอปบน iPhone ของคุณ
- แตะไอคอน “+” (บวก)
- แตะ สแกนเอกสาร
- ถ่ายภาพเนื้อหาที่คุณต้องการสแกน
- หากต้องการ สามารถแก้ไขหรือสแกนหน้าเพิ่มเติมได้
- แตะ “ต่อไป”
- หากต้องการ สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าการบันทึกได้
- แตะบันทึก
คุณสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้และทำการสแกนใหม่โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ นอกจากนี้ คุณสมบัติ Dropbox OCR ยังทำให้เอกสารของคุณสามารถค้นหาได้ และ บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ปลอดภัยจะช่วยให้มั่นใจว่าคุณจะไม่สูญเสียไฟล์สำคัญของคุณ
วิธีสแกนเอกสารบน Android
การใช้ Google Drive
- เปิดแอป Google Drive
- แตะไอคอน “+” (บวก) จากนั้นเลือก “สแกน”
- จัดเอกสารให้มุมมองกล้องและจับภาพการสแกน
- ปรับพื้นที่สแกนหากจำเป็นและบันทึกลงในไดรฟ์ของคุณ
แม้ว่า Google Drive จะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการสแกนขั้นพื้นฐาน แต่ก็ไม่ได้มีการรักษาความปลอดภัยและฟังก์ชันการทำงานในระดับเดียวกับแอปการสแกนโดยเฉพาะ ตัวอย่างเช่น อาจขาดคุณสมบัติขั้นสูงเช่น OCR สำหรับข้อความที่ค้นหาได้และการผสานรวมกับเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
การใช้แอป Dropbox
ฟังก์ชันการทำงานของเครื่องสแกนเอกสารของ Dropbox มอบคุณสมบัติและการรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการถ่ายภาพทั่วไป ขั้นตอนการใช้งานก็ไม่ซับซ้อน โดยทำได้ดังนี้
- เปิดแอปบนอุปกรณ์ Android ของคุณ
- แตะไอคอน “+” (บวก)
- แตะ สแกนเอกสาร
- ถ่ายภาพเนื้อหาที่คุณต้องการสแกนหรือเลือกภาพที่มีอยู่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ของคุณ หากต้องการสแกนซ้ำ ให้แตะ “ถ่ายใหม่”
- หากต้องการ สามารถแก้ไขหรือสแกนหน้าเพิ่มเติมได้ คุณสามารถครอบตัด หมุน หรือเพิ่มฟิลเตอร์ให้กับรูปภาพ รวมถึงเพิ่ม ลบ หรือจัดเรียงลำดับของหน้าที่สแกนใหม่ได้
- แตะ “ต่อไป”
- หากต้องการ สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าการบันทึกได้
- แตะบันทึก
คุณสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ใดๆ ทำการสแกนซ้ำโดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ และรับประโยชน์จาก OCR สำหรับเอกสารที่ค้นหาได้ นอกจากนี้ บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ปลอดภัยยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าเอกสารของคุณจะได้รับการสำรองข้อมูลและเข้าถึงได้เสมอ
เหตุใด OCR จึงดีกว่าสำหรับเอกสารที่สแกน
OCR ย่อมาจาก Optical Character Recognition (การรู้จำอักขระด้วยแสง) โดย OCR จะแปลงข้อความที่สแกนให้เป็นข้อมูลตัวอักษรที่สามารถค้นหาได้ ประโยชน์หลักๆ ข้อหนึ่งของ OCR คือการจัดระเบียบเอกสารที่สแกน แอปสแกนเอกสารของ Dropbox ใช้ OCR เพื่อให้คุณสามารถค้นหาเอกสารใดๆ ที่สแกนได้ด้วยการค้นหาโดยใช้คำสำคัญเพียงคำเดียวในบัญชี Dropbox ของคุณ
ดังนั้น หากคุณเคยอัปโหลดใบแจ้งยอดของธนาคารที่มีวันที่พิมพ์อยู่ตรงมุม คุณจะพบเอกสารได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่ค้นหาจากวันที่เท่านั้น คุณสามารถกำจัดเอกสารฉบับจริงโดยการแปลงเอกสารกระดาษให้เป็นไฟล์ PDF ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงทราบตำแหน่งที่จัดเก็บและค้นหาเอกสารดังกล่าวได้ไม่ยาก หรืออาจเปลี่ยนจากการใช้แอปโน้ตมาเป็นแอปสแกนที่ใช้ OCR แทนได้ ซึ่งจะแปลงเอกสารและบันทึกต่างๆ เป็นข้อมูลดิจิทัลได้ในทันทีด้วยการสแกนแบบแตะครั้งเดียว
วิธีการรับประกันการสแกนที่มีคุณภาพสูง
ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีการสแกนแบบใด ต้องแน่ใจว่าเอกสารของคุณอยู่ในสภาพดีที่สุดสำหรับการสแกนที่คมชัดและชัดเจน:
- พยายามตรวจสอบดูให้ดีว่าเอกสารของคุณไม่ยับ ถูกพับ หรือมีสีผิดเพี้ยน
- ต้องแน่ใจว่ารายละเอียดไม่จางหายไป
- ฉากหลังต้องไม่รกขณะที่ใช้โทรศัพท์สแกน
- หากคุณใช้เครื่องสแกนที่ไม่มี OCR คุณอาจต้องระวังเรื่องความละเอียดด้วย โดยความละเอียดนี้จะมีหน่วยวัดเป็น DPI หรือจุดต่อนิ้ว
- สำหรับรูปภาพ ให้ใช้ความละเอียดที่สูงขึ้นหรือแม้แต่ความละเอียดสูงถึง 600 dpi ที่ไม่มีการสูญเสียข้อมูล
- สำหรับเอกสารเฉดสีเทาธรรมดา ให้ใช้ความละเอียด 300 DPI เพื่อให้เอกสารนั้นอ่านง่ายและมีขนาดไฟล์ที่เล็ก
- ความละเอียดที่น้อยกว่า 300 DPI อาจดูปกติเมื่ออยู่บนหน้าจอ แต่จะเบลอหรือแตกเป็นพิกเซลหากคุณเลือกพิมพ์ลงบนกระดาษในอนาคต
ซอฟต์แวร์แก้ไขรูปภาพส่วนใหญ่สามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเอกสารที่สแกนของคุณได้ แต่คุณอาจต้องสิ้นเปลืองเงินและเวลาไปกับการแก้ไขเอกสารสแกนให้ใช้งานได้
การจัดเก็บเอกสารสแกน
การเก็บเอกสารสแกนของคุณให้ปลอดภัยอยู่ในบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์จะช่วยรับประกันว่าเอกสารสแกนเหล่านั้นจะไม่สูญหายไปในฮาร์ดไดรฟ์ของคุณหรือถูกลบโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับเอกสารส่วนตัว เช่น ใบแจ้งยอดของธนาคาร ซึ่งคุณอาจต้องการสแกนและเก็บเป็นเวอร์ชันดิจิทัล Dropbox มีการป้องกันที่จะรับรองว่ามีเพียงคุณเท่านั้นที่มีสิทธิ์หรือให้สิทธิ์เข้าถึงแก่ผู้ที่ต้องการใช้งานได้ เมื่อใช้ Dropbox คุณจะมีตู้เก็บไฟล์ในโทรศัพท์ที่พกติดตัวไปได้ทุกที่
คำถามที่พบบ่อย
ได้ คุณสามารถใช้กล้องของสมาร์ทโฟนร่วมกับแอปสแกนเอกสารเพื่อสแกนเอกสารได้
การใช้แอปสแกนบนมือถืออย่าง Dropbox เป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด แอปเหล่านี้นำเสนออินเทอร์เฟสที่ใช้งานง่าย การสแกนคุณภาพสูง และความสามารถในการบันทึก แชร์ หรืออัปโหลดเอกสารไปยังคลาวด์โดยตรง
สำหรับเอกสารส่วนใหญ่ 300 DPI ก็เพียงพอแล้ว สำหรับภาพถ่ายหรือภาพคุณภาพสูง ให้ใช้ความละเอียด 600 DPI หรือสูงกว่า
หลังจากสแกนเอกสารของคุณด้วยแอปสแกนของ Dropbox ให้เลือกตัวเลือกที่จะแชร์หรือส่งออก เลือก “อีเมล” แล้วคุณสามารถแนบเอกสารที่สแกนหรือแชร์ลิงก์ไปยังไฟล์ในบัญชี Dropbox ของคุณ และส่งไปยังผู้รับที่ต้องการได้
สแกนเอกสารโดยใช้แอปสแกน Dropbox บนโทรศัพท์ของคุณ แล้วเอกสารจะถูกจัดเก็บไว้ในบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์อย่างปลอดภัยทันที หากคุณต้องการสำเนาที่บันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณนอก Dropbox คุณเพียงแค่ต้องเลือกและดาวน์โหลดจากระบบคลาวด์