ความท้าทาย: การส่ง การติดตาม และการปกป้องข้อเสนอการขายให้ปลอดภัย

Andres Izquieta และ Juan Jaramillo ก่อตั้ง Chiki Chiki Boom Boom (เรียกสั้นๆ ว่า Chiki) ขึ้นมาจากแนวคิดง่ายๆ คือ นำน้ำผลไม้ที่ชายชาวเอกวาดอร์ทั้งสองคนดื่มกันมาตั้งแต่เด็กจนโตมาให้ผู้คนทั่วไปได้ลิ้มลอง

"บนชั้นวางไม่มีเครื่องดื่มชูกำลังและเครื่องดื่มชดเชยน้ำให้ร่างกายสไตล์ลาตินที่เป็นน้ำที่มีส่วนผสมเพิ่มเติมหรือเป็นอะไรที่ดีต่อสุขภาพเลย" Izquieta กล่าว "จากมุมมองของแบรนด์ เราต้องการที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่สะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีของวัฒนธรรมละตินขึ้นมา สิ่งที่แสดงถึงความเป็นของแท้ดั้งเดิม และเป็นสิ่งที่มาจากตัวพวกเราเอง นอกจากนี้ เรายังต้องการสร้างผลกระทบทางสังคมและสอดแทรกความยั่งยืนลงไปในเครื่องดื่มด้วย"

ดังนั้น พวกเขาทั้งคู่จึงทำในสิ่งที่ผู้ประกอบการที่มีความมุ่งมั่นจะลงมือทำ นั่นก็คือพวกเขาได้เริ่มต้นทำฟาร์ม หากจะเจาะจงให้ชัด พวกเขาได้เปิดฟาร์มฟื้นฟูสภาพดินที่ทางตอนใต้ของเอกวาดอร์ โดยร่วมมือกับเหล่าชนพื้นเมืองผู้ปลูกพืชสมุนไพร พืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และพืชสมุนไพรอินทรีย์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ทำให้น้ำผลไม้สูตรเก่าแก่กว่าอายุ 500 ปีมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์และคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อ Izquieta และ Jaramillo ต้องการชื่อสำหรับเครื่องดื่มของพวกเขา พวกเขาได้ยืมคำว่า "Chiki" ซึ่งเป็นคำสแลงภาษาสเปนที่แปลว่า "เด็กน้อย" และนำมาผสมกับคำว่า "Boom" เพื่อให้ฟังดูน่าสนใจ พวกเขาเล่นคำด้วยการใช้คำซ้ำและเปิดตัวเครื่องดื่มที่เป็นเหมือน "เพลงเรเกตอนบรรจุขวด" ให้ชาวโลกได้ลิ้มลอง แต่จะนำเครื่องดื่มนี้เข้าไปขายในร้านค้าได้อย่างไรล่ะ

แวดวงเครื่องดื่มเป็นอุตสาหกรรมแบบอนาล็อก โดยเป็นโลกที่เต็มไปด้วยใบแจ้งหนี้แบบกระดาษ ระบบโลจิสติกส์ที่มีการขนส่งในปริมาณล้นหลาม และการผลิตที่ซับซ้อน กระบวนการขายก็ไม่แตกต่างกัน โดยเฉพาะเมื่อเป็นแบรนด์ใหม่ที่พยายามจะบุกเข้าสู่ตลาดค้าปลีก ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเจอกับโรคระบาดที่จำกัดความสามารถในการขายสินค้าแบบพบเจอหน้ากัน งานที่ยากลำบากอยู่แล้วก็ยิ่งทวีความสาหัสมากขึ้นไปอีก

การนำ Chiki ไปวางขายตามร้านค้าทำให้ Izquieta และทีมจำเป็นต้องมีพื้นที่ที่พวกเขาจะสามารถบันทึก จัดเก็บ ซิงค์ข้อมูล และค้นหารูปภาพ เอกสาร และไฟล์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย จากนั้น พวกเขาต้องมีวิธีในการส่ง ติดตาม และดำเนินการต่อเนื่องกับข้อเสนอหลายร้อยฉบับที่ส่งให้กับผู้ซื้อในเมืองและรัฐที่เป็นเป้าหมาย พวกเขาจำเป็นต้องรู้ว่าใครได้รับข้อเสนอแล้วบ้าง มีการอ่านข้อเสนอหรือไม่ และจะตอบกลับเมื่อใดและอย่างไร

"ในอดีต ระบบที่บริษัทอย่างเราน่าจะใช้นั้นค่อนข้างจะใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน แถมยังล้าสมัย" Izquieta กล่าว "โดยพื้นฐานแล้วก็คือเป็นการส่งอีเมลถึงใครสักคนและขอให้เขาเก็บอีเมลนั้นไว้เป็นความลับ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าไม่มีความรับผิดชอบหรือความสามารถในการติดตามใดๆ เลย เราต้องการวิธีที่ดีกว่านั้น"

วิธีแก้ปัญหา: "หมัดต่อเนื่อง 1-2-3" ของ DocSend

พูดง่ายๆ ก็คือ DocSend นั่นเอง "เราใช้ DocSend เป็นประจำทุกวันตั้งแต่วันแรก" Izquieta กล่าว "โซลูชันนี้เป็นเหมือนหมัดต่อเนื่อง '1-2-3' เลยละครับ"

หมัดที่ 1: Izquieta หรือคนอื่นๆ ในทีม Chiki จะแบ่งปันลิงก์และรหัสผ่านกับผู้รับผ่านทางอีเมล

หมัดที่ 2: กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะดูไฟล์และทีม Chiki จะได้รับแจ้งเตือนเกี่ยวกับการดูนั้น

หมัดที่ 3: ทีม Chiki จะเดินหน้าติดตามผลและปิดดีลแบบเชิงรุก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน โอกาสด้านการค้าปลีก ความพยายามทางการตลาด ความร่วมมือกับครีเอเตอร์ หรือการอนุญาต

อีกทั้งคุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัยของ DocSend ยังช่วยให้ Izquieta นอนหลับสบายไร้กังวลตลอดทั้งคืนด้วย "สำหรับนักลงทุนและผู้ค้าปลีก เรากำลังส่งข้อมูลที่เป็นความลับหรือเป็นกรรมสิทธิ์ ดังนั้นเราจึงต้องการติดตามว่าใครกำลังดูสิ่งเหล่านี้อยู่" เขากล่าว "ข้อดีของ DocSend คือคุณจะได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนดูไฟล์ที่ได้รับการปกป้องด้วยรหัสผ่านของคุณ และจากนั้นยังช่วยให้คุณสามารถทำการติดตามผลได้อีกด้วย เราสร้างลิงก์และแบ่งปันกับคนอื่นๆ อย่างน้อยวันละ 5-10 ครั้งเลยทีเดียว"

ทีม Chiki ใช้ประโยชน์จากการบริการอื่นๆ ของ Dropbox ด้วยเช่นกัน บริษัทนี้กระจายตัวกันอยู่ทั่วโลก Jaramillo กับทีมคอนเทนต์นั้นอาศัยอยู่ใกล้กับฟาร์มดังกล่าวในเอกวาดอร์ ที่ซึ่งพวกเขาจะอัปโหลดรูปภาพและวิดีโออย่างต่อเนื่องไปยังเครือข่ายโฟลเดอร์ย่อยอันรัดกุมของบริษัทที่ซ้อนกันอยู่ภายในบัญชี Dropbox ส่วน Izquieta และทีมการตลาดที่ประจำอยู่ในลอสแอนเจลิสจะนำสินทรัพย์งานเหล่านั้นมาแปลงเป็นโพสต์สำหรับโซเชียล รูปภาพสำหรับผู้ค้าปลีก และสื่อประชาสัมพันธ์อื่นๆ ทุกประเภท ซึ่งบ่อยครั้งพวกเขาทำงานดังกล่าวกันในขณะที่กำลังเดินทางหรืออยู่ระหว่างการประชุม 

"เป็นเหมือนข้อบังคับภายในบริษัทที่ทุกคนต้องดาวน์โหลดแอป Dropbox ลงในโทรศัพท์ของตัวเอง" Izquieta กล่าว "Dropbox ทำให้สิ่งต่างๆ รวดเร็ว ลื่นไหล และโปร่งใส และยังทำให้ผู้คนทำงานได้ตามเป้าหมายอีกด้วย"

ผลลัพธ์: ยอดขายมากกว่าหนึ่งล้านขวดในร้านค้าปลีกหลายพันแห่ง 

ปัจจุบัน Chiki มีวางจำหน่ายในร้านค้า 3,200 แห่ง โดยเน้นที่ร้านค้าในนิวยอร์กและฟลอริด้าเป็นหลัก รองลงมาคือในเท็กซัสและแคลิฟอร์เนีย

• มียอดขายมากกว่า 1 ล้านขวด
• มีการส่งข้อเสนอไป 300 ฉบับด้วยอัตราการเปิดอ่าน 90 เปอร์เซ็นต์
• มีการปลูกต้นไม้ 10,000 ต้น
• มีการปลูกพืช 100,000 ต้น 

นักลงทุน 30 ถึง 40 ราย ซึ่งมีทั้งเพื่อน ครอบครัว และกองทุนผู้บริโภค "มีคนจำนวนมากที่เชื่อมั่นในทีม ในเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ และสิ่งที่เรากำลังพยายามสร้างผลกระทบในแง่ของกระแสทางวัฒนธรรม" Izquieta กล่าว