วิธีกู้คืนไฟล์เวอร์ชันที่ถูกลบ เวอร์ชันที่ยังไม่ได้บันทึก หรือเวอร์ชันเก่าในแอปเดสก์ท็อปยอดนิยม

เป็นสถานการณ์ที่พวกเราหลายคนคุ้นเคยดี ที่คุณกำลังจดจ่ออยู่กับกระบวนการแก้ไขไฟล์ที่สำคัญอยู่ แต่จู่ๆ แอปพลิเคชันก็หยุดทำงาน และที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ คุณจดจ่อกับงานของคุณมากไปจนลืมบันทึกไฟล์ไว้อย่างสม่ำเสมอ

ไม่ว่าคุณจะลบไฟล์ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ บันทึกทับสำเนาเดียวที่คุณมีอยู่ หรือลืมกด “บันทึก” ก่อนปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ การรู้สึกว่าคุณได้สูญเสียความคืบหน้าในงานทั้งหมดไปอาจเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดมาก

แต่ไม่ต้องกังวล ความช่วยเหลืออยู่ใกล้แค่เอื้อม ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ เราจะพาคุณผ่านขั้นตอนต่างๆ ในการกู้คืนไฟล์ที่สูญหายและถูกลบไปบนแอปพลิเคชันเดสก์ท็อปยอดนิยมบางตัวที่ใช้ในปัจจุบัน

กู้คืนไฟล์ Microsoft Excel, Word และ PowerPoint

มาดูกันว่าคุณสามารถกู้คืนไฟล์ Microsoft Office เวอร์ชันที่ถูกลบ ไม่ได้บันทึก หรือเวอร์ชันก่อนหน้าได้อย่างไรด้วยสามวิธีง่ายๆ

กู้คืนไฟล์ Excel, Word หรือ PowerPoint ที่ถูกลบ

1. ไปยังหน้าจอหลักของเดสก์ท็อปแล้วคลิกสองครั้งที่ไอคอนถังรีไซเคิล
2. ดูรายการไฟล์ที่ถูกลบหรือค้นหาชื่อไฟล์ที่ถูกลบ
   1. หากคุณไม่รู้ชื่อไฟล์ คุณสามารถจำกัดการค้นหาให้มีแค่รูปแบบไฟล์ที่เฉพาะเจาะจงได้ดังนี้
      1. พิมพ์ “.xls” หรือ “.xlsx” ในแถบค้นหาสำหรับค้นหาไฟล์ Excel
      2. พิมพ์ “.doc” หรือ “.docx” เพื่อค้นหาเฉพาะไฟล์ Word
      3. พิมพ์ “.ppt” หรือ “.pptx” เพื่อค้นหาเฉพาะไฟล์ PowerPoint
3. เมื่อเจอไฟล์ของคุณแล้ว ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ชื่อไฟล์และเลือกกู้คืน การดำเนินการนี้จะส่งไฟล์ของคุณกลับไปยังตำแหน่งเดิมที่เคยบันทึกไว้

หรือหากไฟล์ที่ถูกลบไม่อยู่ในถังรีไซเคิล คุณสามารถลองใช้เครื่องมือการกู้คืนไฟล์ของ Windows จาก Microsoft ได้ โดยเครื่องมือนี้จะรองรับใน Windows 10 ขึ้นไป

กู้คืนไฟล์ Excel, Word หรือ PowerPoint ที่ไม่ได้บันทึก

1. เปิด Excel, Word หรือ PowerPoint จากนั้นไปที่ ไฟล์ > ข้อมูล
2. คลิกไอคอนจัดการสมุดงาน (Excel), จัดการเอกสาร (Word) หรือจัดการการนำเสนอ (PowerPoint) เพื่อเปิดตัวเลือกแบบดรอปดาวน์
3. เลือกกู้คืนสมุดงาน / เอกสาร / การนำเสนอที่ไม่ได้บันทึก
4. ค้นหาไฟล์ Excel, Word หรือ PowerPoint ของคุณ จากนั้นเลือกไฟล์และคลิกปุ่มเปิด
5. เลือกกู้คืน จากนั้นเลือกบันทึกเป็นเพื่อบันทึกไฟล์ของคุณไว้ในโฟลเดอร์ที่คุณเลือก

หรือคุณสามารถค้นหาไฟล์ที่มีนามสกุลไฟล์ของการกู้คืนอัตโนมัติอย่าง ".asd" ได้ด้วยตนเอง โดยดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้

1. คลิกไอคอนเริ่มต้นบนแถบงานหรือกดปุ่มโลโก้ Windows บนแป้นพิมพ์ของคุณ
2. พิมพ์ “.asd” ในช่องค้นหาแล้วกด Enter
3. หากคุณเจอไฟล์ที่มีนามสกุลนี้ ให้เปิด Excel, Word หรือ PowerPoint จากนั้นไปที่ไฟล์ในเมนูด้านบน
4. คลิกเปิด จากนั้นคลิกเรียกดู ในรายการ “ประเภทของไฟล์” ให้เลือกไฟล์ทั้งหมด
5. คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ไฟล์ที่คุณเลือกแล้วเลือกเปิด

กู้คืนเวอร์ชันก่อนหน้านี้ของไฟล์ Excel, Word หรือ PowerPoint

โปรดทราบว่าหากไม่มีโซลูชันการสำรองข้อมูลอื่น คุณสามารถย้อนกลับเป็นไฟล์ Microsoft Office เวอร์ชันก่อนหน้านี้ได้บนพีซีที่ใช้ Windows ที่มี OneDrive หรือไลบรารี SharePoint Online เท่านั้น

1. เปิดเวอร์ชันปัจจุบันของไฟล์ที่ต้องการ จากนั้นไปที่ ไฟล์ > ข้อมูล
2. หากมีไฟล์เวอร์ชันเก่าอยู่ คุณจะพบกับปุ่มประวัติเวอร์ชัน
3. เลือกตัวเลือกนี้เพื่อเปิดหน้าต่าง
4. เรียกดูเวอร์ชันของไฟล์แล้วเลือกมาดูหนึ่งเวอร์ชัน
5. เลือกเวอร์ชันที่คุณต้องการคืนค่าโดยคลิกปุ่มคืนค่า

ทางเลือกอื่นมีดังนี้

1. เปิดเวอร์ชันปัจจุบันของไฟล์ที่เป็นปัญหา
2. คลิกที่ชื่อไฟล์ในแถบด้านบน
3. หากมีไฟล์เวอร์ชันเก่าอยู่ คุณสามารถคลิกปุ่มประวัติเวอร์ชันได้
4. เลือกประวัติเวอร์ชันและเรียกดูเวอร์ชันของไฟล์ ไฟล์เวอร์ชันล่าสุดจะอยู่ที่ด้านบนสุดของรายการ
5. คลิกกู้คืนเพื่อกู้คืนเวอร์ชันที่คุณต้องการ

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลไฟล์ Excel, Word และ PowerPoint ของคุณเพื่อให้กู้คืนได้อย่างง่ายดาย

การสำรองข้อมูลบนคลาวด์อัตโนมัติเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการปกป้องไฟล์ Microsoft Office ของคุณและทำให้การกู้คืนเป็นเรื่องง่ายในไม่กี่คลิก

Dropbox Backup ทำงานอยู่ในเบื้องหลัง ดังนั้นคุณจึงสามารถทำงานต่อจากที่ค้างไว้ได้หากคุณลบไฟล์ไปโดยไม่ได้ตั้งใจหรือลืมกดปุ่มบันทึก เมื่อใช้ Backup คุณจะสามารถทำสิ่งต่างๆ ต่อไปนี้ได้

• สำรองข้อมูลคอมพิวเตอร์และฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกของคุณ
• กู้คืนได้อย่างง่ายดายหากเกิดข้อผิดพลาด
• เข้าถึงข้อมูลสำรองได้ทุกที่ทุกเวลา
• จัดการทุกอย่างได้จากเดสก์ท็อปของคุณ
• นำไฟล์ไปไว้ในตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

กู้คืนไฟล์ Microsoft Visio

ค้นพบวิธีกู้คืนไฟล์ Microsoft Visio ที่ถูกลบ ยังไม่ได้บันทึก หรือเป็นเวอร์ชันก่อนหน้านี้ด้วยสามวิธีที่แตกต่างกันด้านล่างนี้

กู้คืนไฟล์ Visio ที่ถูกลบ

1. บนหน้าจอหลักของเดสก์ท็อป ให้คลิกสองครั้งที่ไอคอนถังรีไซเคิล
2. เลื่อนดูรายการไฟล์ที่ถูกลบหรือค้นหาชื่อไฟล์ Visio ที่ถูกลบ
   1. หากคุณไม่รู้ชื่อไฟล์ คุณสามารถจำกัดการค้นหาได้ดังนี้
      1. พิมพ์ “.vsdx” เพื่อค้นหารูปวาด Visio
      2. พิมพ์ “.vssx” เพื่อค้นหาสเตนซิล Visio
      3. พิมพ์ “.vsdx” เพื่อค้นหาแม่แบบ Visio
3. เมื่อคุณพบไฟล์ Visio ของคุณ ให้คลิกขวาที่ชื่อไฟล์และเลือกคืนค่า จากนั้นไฟล์ของคุณจะถูกส่งกลับไปยังโฟลเดอร์ที่จัดเก็บไว้เดิม

หากคุณไม่พบไฟล์ที่ถูกลบในถังรีไซเคิล ให้ลองใช้เครื่องมือการกู้คืนไฟล์ของ Windows จาก Microsoft โดยเครื่องมือนี้จะรองรับใน Windows 10 ขึ้นไป

กู้คืนไฟล์ Visio ที่ไม่ได้บันทึก

หมายเหตุ: ฟังก์ชันการกู้คืนอัตโนมัติไม่ได้เปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้นสำหรับไฟล์ Visio เหมือนกับในแอป Microsoft Office ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดการทำงานการกู้คืนอัตโนมัติใน Visio เพื่อให้กู้คืนไฟล์ที่ไม่ได้บันทึกได้ง่ายยิ่งขึ้นหากพีซี (หรือแอปพลิเคชัน) ของคุณหยุดทำงาน

1. เปิด Visio
2. Visio จะแสดงไฟล์ที่คุณกำลังใช้งานอยู่ก่อนที่แอปหรือคอมพิวเตอร์ของคุณจะหยุดทำงานให้โดยอัตโนมัติ
   1. ตอนนี้ชื่อไฟล์จะมี [กู้คืนแล้ว] ต่อท้าย
3. คลิกบันทึกเพื่อบันทึกไฟล์ Visio ที่กู้คืนบนคอมพิวเตอร์ของคุณ

กู้คืนไฟล์ Visio เวอร์ชันก่อนหน้านี้

1. เมื่อเปิดเวอร์ชันปัจจุบันของไฟล์ที่ต้องการแล้ว ให้ไปที่ ไฟล์ > ข้อมูล > ประวัติเวอร์ชัน
   1. หรืออีกวิธีหนึ่งคือคลิกชื่อไฟล์ในแถบด้านบน จากนั้นคลิกปุ่มประวัติเวอร์ชัน
2. เปิดบานหน้าต่างประวัติเวอร์ชันและดูเวอร์ชันไฟล์ที่แตกต่างกัน
   1. ไฟล์เวอร์ชันล่าสุดจะอยู่ที่ด้านบนสุดของรายการ
3. เลือกเวอร์ชันไฟล์เพื่อดู จากนั้นคลิกปุ่มกู้คืนเพื่อกู้คืนเวอร์ชันนี้

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลไฟล์ Visio ของคุณเพื่อให้กู้คืนได้อย่างง่ายดาย

วิธีที่ง่ายที่สุดและรวดเร็วที่สุดในการกู้คืนไฟล์ Visio ของคุณคือการบันทึกสำเนาไว้ในโซลูชันการสำรองข้อมูลบนคลาวด์อัตโนมัติ

Dropbox Backup ทำงานอยู่ในเบื้องหลัง ดังนั้นคุณจึงสามารถทำงานกับรูปวาด สเตนซิล และแม่แบบได้โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะสูญหาย ไฟล์ของคุณจะได้รับการอัปเดตและพร้อมให้คุณเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ

Backup ทำให้การย้อนกลับไปเป็นไฟล์เวอร์ชันก่อนหน้านี้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอย่างมากหากงานส่วนใหญ่ของคุณเป็นการทำงานร่วมกันและไฟล์ของคุณต้องผ่านการทำซ้ำหลายครั้ง

กู้คืนไฟล์ Keynote

ค้นพบสามตัวเลือกในการกู้คืนที่รวดเร็วและง่ายดายสำหรับการกู้คืนงานนำเสนอ Keynote บน Mac ของคุณ

กู้คืนไฟล์ Keynote ที่ถูกลบ

1. คลิกไอคอนถังขยะบนแถบงานของ Mac ของคุณ
2. ดูรายการไฟล์ที่ถูกลบหรือค้นหาชื่อไฟล์ที่ถูกลบ
   1. เพื่อให้การค้นหาของคุณเร็วขึ้น ให้เปลี่ยนการจัดเรียงรายการเพื่อจัดเรียงไฟล์ตามขนาดหรือประเภทของไฟล์ ชื่อ วันที่ลบ และอื่นๆ
3. เมื่อเจอไฟล์ Keynote ของคุณแล้ว ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ชื่อไฟล์และเลือกนำกลับ การดำเนินการนี้จะส่งไฟล์ของคุณกลับไปยังโฟลเดอร์เดิม

กู้คืนไฟล์ Keynote ที่ไม่ได้บันทึก

1. เปิดเวอร์ชันปัจจุบันของงานนำเสนอ Keynote
2. ไปที่ไฟล์ > ย้อนกลับเป็น
3. เลือกเปิดล่าสุด
   1. การดำเนินการนี้จะเป็นการลบการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับไฟล์นี้ตั้งแต่ที่เปิดไฟล์ล่าสุด
4. หรือเลือกบันทึกครั้งล่าสุด
   1. การดำเนินการนี้จะเป็นการลบการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำกับไฟล์นี้ตั้งแต่ที่บันทึกไฟล์ล่าสุด
5. คลิกคืนค่าหรือเสร็จสิ้น

กู้คืนไฟล์ Keynote เวอร์ชันก่อนหน้านี้

1. เปิดงานนำเสนอ Keynote ของคุณ
2. ในเมนูที่ด้านบนของหน้าจอ ไปที่ไฟล์ > ย้อนกลับไปที่ > เรียกดูเวอร์ชันทั้งหมด
   1. ภาพตัวอย่างของไฟล์เวอร์ชันปัจจุบันจะแสดงอยู่ทางด้านซ้ายของหน้าจอ และชุดภาพตัวอย่างของเวอร์ชันก่อนหน้าจะแสดงอยู่ทางด้านขวา
   2. นอกจากนี้ยังมีลำดับเวลาในแนวตั้งอยู่ที่ด้านขวาของหน้าจอด้วย
3. หากต้องการดูไฟล์ Keynote เวอร์ชันก่อนหน้านี้ ให้คลิกเครื่องหมายถูกบนลำดับเวลาหรือลูกศรที่อยู่ถัดจากชุดภาพตัวอย่าง คลิกภาพตัวอย่างเพื่อดูขนาดเต็ม
4. คลิกคืนค่าใต้ภาพขนาดย่อทางด้านขวาของหน้าจอ ซึ่งจะแทนที่เวอร์ชันปัจจุบันของไฟล์
5. หรือบันทึกสำเนาของเวอร์ชันก่อนหน้านี้เป็นไฟล์ใหม่โดยกดปุ่ม Option บนแป้นพิมพ์ค้างไว้ จากนั้นคลิกกู้คืนสำเนา
   1. การดำเนินการนี้จะเป็นการเปิดสำเนาในหน้าต่างใหม่ ซึ่งคุณสามารถแก้ไขงานนำเสนอและบันทึกงานนำเสนอนั้นด้วยชื่อไฟล์ใหม่ได้

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลไฟล์ Keynote ของคุณเพื่อให้กู้คืนได้อย่างง่ายดาย

อย่ารอจนเกิดข้อผิดพลาดขึ้น สำรองข้อมูลไฟล์ Keynote ของคุณไปยังคลาวด์โดยอัตโนมัติ เพื่อให้คุณสามารถกู้คืนงานนำเสนอได้อย่างรวดเร็วและราบรื่นมากที่สุด

• ด้วยบริการที่ยืดหยุ่นและเปิดใช้งานตลอดเวลาเช่น Dropbox Backup คุณจะสามารถ:
• ปกป้องงานนำเสนอ Keynote จากการสูญหายและความเสียหายของอุปกรณ์ที่ไม่คาดคิด
• กู้คืนงานนำเสนอได้อย่างง่ายดายเมื่อตั้งค่า Mac เครื่องใหม่หรือติดตั้ง macOS ใหม่
• เก็บรักษาไฟล์ของคุณให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามความปลอดภัยทางไซเบอร์
• เข้าถึงงานนำเสนอของคุณได้ทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ
• ลดการใช้เวลาและพลังงานที่จะสิ้นเปลืองไปกับการสำรองข้อมูลด้วยตนเอง

กู้คืนไฟล์ Adobe Acrobat PDF, Illustrator และ Photoshop

เรียนรู้สามวิธีในการกู้คืนข้อมูลใน Adobe Acrobat PDF, Illustrator และ Photoshop บนระบบปฏิบัติการต่างๆ

กู้คืนไฟล์ Adobe Acrobat PDF, Illustrator และ Photoshop ที่ถูกลบ

• เปิดถังขยะบนพีซี Windows หรือถังขยะบน Mac
• เลื่อนดูรายการไฟล์ที่ถูกลบหรือค้นหาชื่อไฟล์ PDF ที่ถูกลบ
• เมื่อคุณเจอไฟล์ PDF ที่คุณต้องการกู้คืนแล้ว ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ชื่อไฟล์
• เลือกกู้คืนบนพีซีที่ใช้ Windows หรือนำกลับบน Mac

กู้คืนไฟล์ Adobe Acrobat PDF ที่ไม่ได้บันทึก

ในแอปพลิเคชัน Adobe ทุกตัวจะมีการตั้งค่าคุณสมบัติการบันทึกอัตโนมัติตามค่าเริ่มต้น โดยคุณสมบัตินี้จะบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่คุณทำกับไฟล์ที่ใช้งานอยู่ในทุกๆ สองสามนาทีและสร้างไฟล์ชั่วคราวขึ้นมา

ดังนั้น หาก Acrobat, Illustrator หรือ Photoshop หยุดทำงานขณะที่คุณกำลังใช้งานอยู่ เพียงปิดแอปพลิเคชันและเปิดใช้งานอีกครั้ง (หรือบังคับปิดและเปิดใช้งานอีกครั้งหากไม่มีการตอบสนอง) แอปพลิเคชันจะเปิดไฟล์ที่บันทึกอัตโนมัติไว้โดยอัตโนมัติ ซึ่งตอนนี้จะมี [กู้คืนแล้ว] ต่อท้ายชื่อไฟล์ 

เมื่อรีสตาร์ท โปรแกรมจะแสดงกล่องโต้ตอบให้คุณเห็น ซึ่งจะเป็นการอธิบายว่าแอปหยุดการทำงานโดยไม่คาดคิดและเอกสารใดๆ ที่เปิดอยู่ซึ่งสามารถกู้คืนได้พร้อมข้อมูลที่ไม่ได้บันทึกนั้นมีชื่อว่า <ชื่อไฟล์> [กู้คืนแล้ว]

เพียงคลิกปุ่มตกลงบนกล่องนี้ จากนั้นเวอร์ชันที่กู้คืนของไฟล์ของคุณจะเปิดขึ้น ไปที่ไฟล์ > บันทึกเป็น เพื่อบันทึกไฟล์นี้

หากวิธีนี้ไม่ได้ผล คุณสามารถคืนค่าไฟล์ PDF, Illustrator หรือ Photoshop ที่ไม่ได้บันทึกด้วยตนเองได้

บน Windows:

1. พิมพ์% AppData % ในการค้นหาของ Windows
2. ไปที่ตำแหน่งต่อไปนี้: Roaming\Adobe\
   1. ในตำแหน่งนี้จะเป็นรายการโฟลเดอร์ที่มีชื่อแอปพลิเคชัน ให้เปิดโฟลเดอร์ที่มีชื่อแอปพลิเคชันที่คุณต้องการกู้คืนไฟล์ขึ้นมา
3. ภายในโฟลเดอร์นี้จะมีอีกโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่าการกู้คืนอัตโนมัติ
4. ค้นหาและเปิดไฟล์ที่คุณต้องการ จากนั้นใช้บันทึกเป็นเพื่อบันทึกไฟล์ที่กู้คืนมาในตำแหน่งใหม่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้กระบวนการที่คล้ายกันเพื่อเข้าถึงไฟล์ชั่วคราวที่สร้างโดย Acrobat, Illustrator หรือ Photoshop ซึ่งเก็บอยู่ในไดเร็กทอรี Temp ของคุณ 

หากต้องการเข้าถึง ให้ไปที่เส้นทาง C:/Users/Username/AppData/Local/Temp/ โดยที่ "ชื่อผู้ใช้" หมายถึงชื่อผู้ใช้ส่วนบุคคลของคุณ คุณสามารถจัดเรียงไฟล์ที่นี่ตามวันที่หรือประเภทไฟล์ได้

ค้นหาไฟล์ที่คุณต้องการ จากนั้นให้คัดลอกและวางในตำแหน่งใหม่บนพีซีของคุณ เปลี่ยนนามสกุลไฟล์จาก “.tmp” เป็น “.pdf” สำหรับ PDF, “.ai” สำหรับ Illustrator หรือ “.psd” สำหรับ Photoshop

บน macOS:

1. คลิกไปที่แถบเมนู จากนั้นไปที่โฟลเดอร์ หรือไม่ก็กด Cmd+Shift+G บนแป้นพิมพ์ของคุณ
2. พิมพ์ ~ /Library/ แล้วกด Go
3. ไปที่ตำแหน่งต่อไปนี้ โดยที่ [version] แสดงเวอร์ชันปัจจุบันของ Adobe Illustrator ที่ติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของคุณ: Preferences/Adobe Illustrator [version] Settings/en_US/Adobe Illustrator Prefs
4. ค้นหาและเปิดไฟล์ที่คุณต้องการ จากนั้นใช้บันทึกเป็นเพื่อบันทึกไฟล์ที่กู้คืนมาในตำแหน่งใหม่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

กู้คืนไฟล์ Adobe Acrobat PDF, Illustrator และ Photoshop เวอร์ชันก่อนหน้านี้

หากคุณใช้พีซีที่ใช้ Windows และเปิดการทำงานประวัติไฟล์ไว้ ให้ทำดังนี้

1. เปิด File Explorer และคลิกเมาส์ปุ่มขวาที่โฟลเดอร์ที่เคยใช้บันทึกไฟล์ไว้
2. เลือกกู้คืนเวอร์ชันก่อนหน้านี้
3. เลือกการสำรองข้อมูลประวัติไฟล์ที่คุณต้องการแล้วคลิกลูกศรเล็กๆ ถัดจากเปิดเพื่อแสดงเมนูแบบหล่นลง
4. เลือกเปิดในประวัติไฟล์
5. เลือกไฟล์ PDF, Illustrator หรือ Photoshop ของคุณแล้วคลิกปุ่มกู้คืน (วงกลมสีเขียวที่มีสัญลักษณ์ย้อนกลับแบบวงกลม)

หากคุณใช้ Mac และเปิดการทำงาน Time Machine ไว้ ให้ทำดังนี้

1. เปิดโฟลเดอร์ที่เคยใช้บันทึกไฟล์ไว้
2. คลิกไอคอน Time Machine ในแถบเมนูและเลือกเข้าสู่ Time Machine
3. ใช้ลำดับเวลาทางด้านขวาของหน้าจอเพื่อค้นหาไฟล์ PDF, Illustrator หรือ Photoshop ที่คุณต้องการกู้คืน
4. เลือกไฟล์ PDF ของคุณและคลิกปุ่มคืนค่า

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลไฟล์ Adobe ของคุณเพื่อให้กู้คืนได้อย่างง่ายดาย

การมีโซลูชันการสำรองข้อมูลบนคลาวด์แบบอัตโนมัติเป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการปกป้องไฟล์ Adobe Acrobat PDF, Illustrator และ Photoshop ของคุณ

การตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์ทุกไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของคุณปลอดภัยและสามารถกู้คืนได้ง่ายไม่ควรเป็นเรื่องยุ่งยาก ด้วยบริการเช่น Dropbox Backup ไฟล์ของคุณจะได้รับการสำรองข้อมูลไปที่คลาวด์โดยอัตโนมัติและพร้อมใช้งานได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ

ข้อดีบางประการของการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ ได้แก่

• การปกป้องและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ไฟล์ของคุณจะได้รับการเข้ารหัสและเก็บไว้ให้ปลอดภัยจากภัยพิบัติและความเสียหายที่ไม่คาดคิด
• ความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่น Dropbox Backup จะทำงานอย่างต่อเนื่องอยู่ในเบื้องหลังและช่วยในการตรวจสอบและจัดการไฟล์ของคุณ
• การเข้าถึง ใช้แอปหรือเว็บไซต์ Dropbox เพื่อเข้าถึงข้อมูลสำรองของคุณบนมือถือหรือเดสก์ท็อป
• ความสามารถในการปรับขนาดได้ จ่ายให้กับสิ่งที่คุณจำเป็นต้องใช้เท่านั้น

กู้คืนไฟล์ AutoCAD

เรียนรู้วิธีกู้คืนไฟล์ AutoCAD ของคุณด้วยสามวิธีที่แตกต่างกันด้านล่างนี้

กู้คืนไฟล์ AutoCAD ที่ถูกลบ

1. เปิดถังรีไซเคิลบน Windows หรือถังขยะบน macOS
2. เรียกดูไฟล์ที่ถูกลบหรือค้นหาชื่อไฟล์ AutoCAD ที่ถูกลบ
3. ระบุตำแหน่งไฟล์ที่คุณต้องการกู้คืน จากนั้นคลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ชื่อไฟล์
4. คลิกที่ปุ่มกู้คืนบน Windows หรือนำกลับบน macOS

กู้คืนไฟล์ AutoCAD ที่ไม่ได้บันทึก

ตามค่าเริ่มต้น AutoCAD จะบันทึกไฟล์ของคุณอัตโนมัติทุกๆ 10 นาทีและสร้างไฟล์การสำรองข้อมูล (.bak) ขึ้นมาเมื่อทำการบันทึกรูปวาดของคุณ (.dwg)

หากต้องการกู้คืนไฟล์ .bak ให้ทำดังนี้

1. เปิดโฟลเดอร์ที่เคยใช้บันทึก .dwg ของคุณ
2. ค้นหาไฟล์ที่มีชื่อเดียวกับรูปวาดที่คุณต้องการกู้คืน แต่เป็นไฟล์ .bak ส่วนขยาย
3. เปลี่ยนนามสกุลไฟล์ .bak เป็น .dwg จากนั้นให้เปิดไฟล์นี้ใน AutoCAD

หากต้องการกู้คืนไฟล์ที่บันทึกอัตโนมัติ (.sv$) ให้ทำดังนี้

1. เปิดโฟลเดอร์ที่บันทึกอัตโนมัติบนอุปกรณ์ของคุณ โดยทำดังนี้
   1. สำหรับ Windows นี่คือโฟลเดอร์ Temp ตามค่าเริ่มต้น ค้นหาสิ่งนี้ได้โดยการพิมพ์ %tmp% ในเมนู Start
   2. สำหรับ macOS นี่คือเส้นทาง /Users/[ชื่อผู้ใช้]/Documents/Autodesk/Autosave โดยที่ [ชื่อผู้ใช้] แสดงถึงชื่อผู้ใช้ของอุปกรณ์ของคุณ
2. ระบุตำแหน่งไฟล์ที่มีชื่อเดียวกันกับรูปวาดที่คุณต้องการกู้คืน แต่ใช้นามสกุลไฟล์ .sv$ และรหัสการประทับเวลา
3. เปลี่ยนนามสกุลไฟล์ .sv$ เป็น .dwg จากนั้นให้เปิดไฟล์นี้ใน AutoCAD

กู้คืนไฟล์ AutoCAD เวอร์ชันก่อนหน้านี้

เมื่อ AutoCAD บันทึกไฟล์อัตโนมัติ จะมีการบันทึกรูปวาดตามช่วงเวลาที่กำหนด โดยไฟล์ชั่วคราวที่สร้างขึ้นโดยขั้นตอนนี้จะสามารถพบได้ในโฟลเดอร์การบันทึกอัตโนมัติบนคอมพิวเตอร์ของคุณ (โฟลเดอร์ชั่วคราวบน Windows และ Documents/Autodesk/Autosave บน macOS)

ไฟล์ชั่วคราวจะได้รับชื่อเริ่มต้นเป็น filename_a_b_nnnn.sv$ โดยที่:

• ชื่อไฟล์แสดงชื่อปัจจุบันของรูปวาด
• a แทนจำนวนอินสแตนซ์ที่เปิดอยู่ของไฟล์รูปวาดเดียวกันในเซสชันการทำงานเดียวกัน
• b แทนจำนวนอินสแตนซ์ที่เปิดอยู่ของรูปวาดเดียวกันในเซสชันการทำงานที่แตกต่างกัน
• nnnn แสดงถึงหมายเลขที่ได้รับการกำหนดแบบสุ่ม
• .sv$ แสดงถึงนามสกุลไฟล์ที่บันทึกอัตโนมัติ

ไฟล์ชั่วคราวเหล่านี้จะถูกลบโดยอัตโนมัติเมื่อคุณปิด AutoCAD ตามปกติ แต่จะไม่ถูกลบหากแอปพลิเคชันหรืออุปกรณ์ของคุณขัดข้อง

หากต้องการกู้คืนเวอร์ชันก่อนหน้าของรูปวาด AutoCAD ให้ไปที่โฟลเดอร์ที่จัดเก็บไฟล์ชั่วคราวของคุณ จากนั้นสิ่งที่คุณต้องทำคือเปลี่ยนชื่อเวอร์ชันไฟล์ที่คุณต้องการคืนค่าโดยเปลี่ยน .sv$ ส่วนขยายของ .dwg ก่อนที่คุณจะปิด AutoCAD

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลไฟล์ AutoCAD ของคุณเพื่อให้กู้คืนได้อย่างง่ายดาย

หากคุณไม่มีเวลาหรือพลังงานในการค้นหาไฟล์และโฟลเดอร์ชั่วคราวเพื่อกู้คืนรูปวาด AutoCAD คุณควรพิจารณาใช้การสำรองข้อมูลบนคลาวด์แบบอัตโนมัติ

Dropbox Backup เป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายดายที่สุดในการปกป้องไฟล์ AutoCAD และกู้คืนงานของคุณหากมีอะไรผิดพลาด Backup จะสำรองข้อมูลไฟล์ของคุณอย่างต่อเนื่องในขณะที่คุณแก้ไขไฟล์นั้นอยู่ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องกังวลหากคิดว่าได้ลบงานของคุณไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

คุณยังสามารถกู้คืนไฟล์เวอร์ชันก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายดายและจัดการทุกอย่างได้จากเดสก์ท็อปของคุณ

กู้คืนไฟล์ Notepad++

ค้นพบสามวิธีที่แตกต่างกันในการกู้คืนไฟล์ Notepad++ ของคุณ

กู้คืนไฟล์ Notepad++ ที่ถูกลบ

1. ไปยังโฟลเดอร์บนอุปกรณ์ของคุณที่ไฟล์ที่ถูกลบถูกส่งไปโดยอัตโนมัติ
   1. บน Windows โฟลเดอร์นี้คือถังรีไซเคิล
   2. บน macOS โฟลเดอร์นี้คือถังขยะ
2. ดูไฟล์ที่ถูกลบในโฟลเดอร์นี้หรือค้นหาชื่อไฟล์ Notepad++ ที่ถูกลบ
3. เมื่อคุณเจอไฟล์ Notepad++ ที่ถูกลบที่คุณต้องการกู้คืนแล้ว ให้คลิกเมาส์ปุ่มขวาที่ชื่อไฟล์
4. เลือกกู้คืนบน Windows หรือนำกลับบน macOS

กู้คืนไฟล์ Notepad++ ที่ไม่ได้บันทึก

Notepad++ ล้ำหน้ากว่า Notepad และมีคุณลักษณะสำรองข้อมูลในตัว คุณสามารถค้นหาสิ่งนี้ได้ใน การตั้งค่า > การกำหนดลักษณะ > การสำรองข้อมูล

ในขณะที่คุณแก้ไขไฟล์ในแอปพลิเคชัน Notepad++ จะสร้างไฟล์ชั่วคราวขึ้นมาซึ่งจะจัดเก็บไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ภายในของคอมพิวเตอร์ของคุณ

บน Windows:

1. พิมพ์% AppData % ในการค้นหาของ Windows
2. ไปที่ตำแหน่งต่อไปนี้: Roaming\Notepad++\
3. ภายในโฟลเดอร์นี้จะมีอีกโฟลเดอร์ที่มีชื่อว่าการสำรองข้อมูล
4. ค้นหาและเปิดไฟล์ที่คุณต้องการ จากนั้นบันทึกไฟล์ที่กู้คืนมาไปยังโฟลเดอร์ใหม่บนคอมพิวเตอร์ของคุณ

กู้คืนไฟล์ Notepad++ เวอร์ชันก่อนหน้านี้

การควบคุมเวอร์ชันจะไม่ได้เปิดใช้งานใน Notepad++ ตามค่าเริ่มต้น แม้ว่าคุณจะเปิดการทำงานคุณสมบัติการสำรองข้อมูลของแอปพลิเคชันไว้ ตัวเลือกการสำรองข้อมูลอย่างง่ายจะบันทึกเฉพาะเวอร์ชันล่าสุดของไฟล์เท่านั้น

หากต้องการเปิดใช้งานการควบคุมเวอร์ชันใน Notepad++ ให้เปิดใช้งานการสำรองข้อมูลแบบ Verbose ใน การตั้งค่า > การกำหนดลักษณะ > สำรองข้อมูล ซึ่งจะสร้างสำเนาสำรองใหม่ของไฟล์ของคุณโดยมีวันที่และเวลาปัจจุบันทุกครั้งที่คุณคลิกบันทึก

จากนั้นคุณสามารถกู้คืนไฟล์ Notepad++ เวอร์ชันก่อนหน้าได้โดยทำตามขั้นตอนเดียวกับที่ใช้กู้คืนไฟล์ที่ไม่ได้บันทึก

สิ่งที่ต้องทำต่อไป: สำรองข้อมูลไฟล์ Notepad++ ของคุณเพื่อให้กู้คืนได้ง่าย

การปกป้องไฟล์ของคุณไม่ควรซับซ้อน โซลูชันการสำรองข้อมูลบนคลาวด์อัตโนมัติเช่น Dropbox Backup ช่วยลดความเครียดและความสับสนในการกู้คืนไฟล์

หากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นกับไฟล์ Notepad++ ของคุณ Backup จะช่วยให้คุณทำงานต่อจากที่ค้างไว้ได้ทันที โดยจะสำรองข้อมูลไฟล์ไปยังบัญชี Dropbox ของคุณโดยอัตโนมัติ คุณจึงสามารถเข้าถึงไฟล์เหล่านั้นได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ

เมื่อใช้ Dropbox Backup การกู้คืนไฟล์ก็เป็นเรื่องง่ายเพียงไม่กี่คลิก

Dropbox Backup ทำให้การสำรองข้อมูลไฟล์ของคุณไปยังคลาวด์โดยอัตโนมัตินั้นเป็นเรื่องง่าย เพื่อให้คุณสามารถกู้คืนอย่างรวดเร็วและราบรื่นได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณก็ตาม