Skip to main content

VPN alternative

ทางเลือกแทน VPN ที่รวดเร็วและไร้ปัญหาชวนปวดหัว

คุณไม่จำเป็นต้องมีผู้ให้บริการ VPN: Dropbox ช่วยให้คุณแบ่งปันไฟล์ได้อย่างปลอดภัยทั้งในและนอกเครือข่ายองค์กรโดยไม่ต้องเสียเวลาตั้งค่า VPN ที่ช้าและซับซ้อน

ผู้หญิงที่มีผิวสีแทนและผมสีน้ำตาลเข้มกำลังใช้มือซ้ายค้ำศีรษะและยิ้มให้กับคอมพิวเตอร์อยู่ พร้อมกับถือแก้วชาไว้ในมือขวา

การแบ่งปันไฟล์ด้วย VPN เป็นเรื่องชวนปวดหัว

ว่ากันตามจริงแล้วนั้น การกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์ VPN รวมทั้งการฝึกอบรมและบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่องอาจเป็นภาระที่เหน็ดเหนื่อยของทีมงานฝ่ายไอที อีกทั้งยังสิ้นเปลืองเงินอีกด้วย แล้วทำไมจึงต้องใช้บริการ VPN VPN คืออุโมงค์ข้อมูลที่เชื่อมโยงระหว่างคุณและเครือข่ายของบริษัทซึ่งมีความเป็นส่วนตัวและมีการเข้ารหัส จึงช่วยให้คุณเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ไฟล์ของบริษัทจากระยะไกลได้อย่างปลอดภัย

แต่ส่วนหนึ่งของปัญหากวนใจสำหรับคุณคือการต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยแอปพิเศษทุกครั้ง ตามมาด้วยความรู้สึกหงุดหงิดในรูปแบบของปัญหาในการเชื่อมต่อและเชื่อมต่อใหม่ การรบกวนทรัพยากรเครือข่ายอื่นๆ และการเชื่อมต่อที่เชื่องช้า เรามีวิธีที่ดีกว่านั้น

Dropbox: การแบ่งปันไฟล์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้

การเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ไฟล์ผ่าน VPN เป็นกระบวนการหลายขั้นตอนที่อาจทำให้ผู้ใช้ที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยียังรู้สึกรำคาญใจได้ แต่ Dropbox ต้องการแค่การติดตั้งและลงชื่อเข้าใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น การเข้าถึงไฟล์ที่แบ่งปันโดยสมาชิกทีมจะเป็นเรื่องง่ายพอๆ กับการนำทางไปสู่โฟลเดอร์ผ่านแอปของเรา

สำหรับโซลูชัน VPN ที่เหนือชั้นแล้วนั้น การเปลี่ยนมาใช้ Dropbox หมายถึงประสบการณ์ที่ดีขึ้น ง่ายดายขึ้น และมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น การใช้ Dropbox นั้นง่ายดายราวกับการบันทึกไฟล์ลงในโฟลเดอร์ ทั้งยังลดความจำเป็นในการฝึกอบรมและสนับสนุนผู้ใช้ปลายทาง นอกจากนี้ แนวทางการออกแบบเครื่องมือของผู้ดูแลระบบ "เพื่อผู้ใช้" ของเรายังช่วยให้คุณใช้เวลากำหนดค่าซอฟต์แวร์น้อยลง และมีเวลามากขึ้นสำหรับโครงการเพื่อกลยุทธ์ที่มีความสำคัญ

โฟลเดอร์สำหรับแม่แบบที่มีประเภทไฟล์แตกต่างกันหลายประเภทตามที่เห็นได้จากเดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่

ระบบปฏิบัติการ Windows, Mac และ Linux

ทุกครั้งที่คุณเข้าร่วมโฟลเดอร์ที่แบ่งปันโดยบุคคลภายในหรือภายนอกทีม ไฟล์ดังกล่าวจะปรากฏในโฟลเดอร์ Dropbox บนคอมพิวเตอร์ของคุณโดยอัตโนมัติ

เว็บ

ลงชื่อเข้าใช้ที่ dropbox.com จากคอมพิวเตอร์เครื่องใดก็ได้เพื่อเข้าถึงไฟล์ของคุณจากทุกที่

อุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ iOS และ Android

แบ่งปัน ดูตัวอย่าง และแสดงความคิดเห็นบนไฟล์จากโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตได้จากแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของเรา

Dropbox: การแบ่งปันไฟล์ที่ใช้งานง่าย

พื้นที่จัดเก็บไฟล์ผ่าน VPN ทำให้การแบ่งปันไฟล์ในบริษัทนั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยากพออยู่แล้ว แต่การแบ่งปันไฟล์นอกบริษัทก็แทบจะเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลย ในทางกลับกัน การแบ่งปันไฟล์ด้วย Dropbox นั้นง่ายดายราวกับการคลิก "แบ่งปัน" หรือคัดลอกและวางลิงก์ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างบัญชีสำหรับทุกคนที่ต้องเข้าถึงไฟล์หรือโฟลเดอร์ และลิงก์ที่แบ่งปันของ Dropbox ก็จะได้รับการอัพเดตให้แสดงไฟล์เวอร์ชันล่าสุดของคุณอีกด้วย

ดรอปดาวน์ในไฟล์ที่แสดงรายชื่อผู้ที่เข้าถึงไฟล์ได้พร้อมกับระดับสิทธิ์ของผู้เข้าถึง

ไม่จำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์พิเศษหรือไคลเอนท์ VPN

ทุกคนสามารถเข้าถึงลิงก์ที่แบ่งปัน และแม้กระทั่งดูตัวอย่างไฟล์พร้อมเพิ่มความคิดเห็นได้จากทุกเว็บเบราว์เซอร์

ตัวควบคุมสิทธิ์ที่ใช้งานง่าย

ผู้ใช้ปลายทางสามารถมอบสิทธิ์และเพิกถอนการเข้าถึง รวมทั้งเพิ่มการป้องกันด้วยรหัสผ่านและวันที่หมดอายุสำหรับลิงก์ที่แบ่งปันได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือบรรทัดคำสั่งที่มีความซับซ้อน

ไม่มีข้อผิดพลาด "ไฟล์ใช้งานอยู่"

หากผู้ใช้หลายคนเข้าใช้ไฟล์เดียวพร้อมกัน Dropbox จะเก็บรักษาการเปลี่ยนแปลงของแต่ละบุคคลไว้เป็นสำเนาแยกต่างหาก เพื่อไม่ให้มีการเขียนทับงานที่ผู้อื่นได้ทำไว้อย่างตั้งใจ

ตัวเลือกแทน VPN ที่รวดเร็วกว่า

ไม่ว่าคุณจะตั้งค่าการเชื่อมต่อ VPN อย่างไร ก็ยังทำให้เกิดปัญหาการเชื่อมต่อที่เชื่องช้าแก่ผู้ใช้อยู่ดี Dropbox มาพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อการโอนย้ายไฟล์ที่รวดเร็ว

ผู้ใช้กำลังเลือกไฟล์ .mp4 เพื่อแบ่งปันผ่าน Dropbox Transfer

เดลต้าซิงค์

หากไฟล์มีการเปลี่ยนแปลงเพียงบางส่วนนับจากการบันทึกลงใน Dropbox ครั้งล่าสุด จะมีการซิงค์เพียงส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น เพื่อประหยัดเวลาและแบนด์วิดท์

การอัพโหลดต่อโดยอัตโนมัติ

หากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณหยุดชะงักระหว่างการอัพโหลด Dropbox จะดำเนินการต่อหลังจากนั้น ซึ่งทำให้การโอนย้ายไฟล์ขนาดใหญ่รวดเร็วยิ่งขึ้น

พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเฉพาะออนไลน์

คุณสามารถประหยัดพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์พร้อมกับทำให้การลงขายไดเร็กทอรี่เป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเพื่อการนำทางที่รวดเร็วได้ด้วยการย้ายไฟล์ไปไว้บนคลาวด์

Dropbox: การแบ่งปันไฟล์ที่ปลอดภัย

การรักษาความปลอดภัยอาจเป็นเหตุผลหลักที่ควรเลือกใช้เทคโนโลยี VPN สำหรับการแบ่งปันไฟล์ แต่เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆ ทางเลือกนี้อาจสร้างปัญหามากกว่าประโยชน์ Dropbox มอบการรักษาความปลอดภัยที่คุณต้องการเพื่อให้ข้อมูลของทีมปลอดภัย

การตั้งค่ารหัสผ่านและการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอนได้เพิ่มเข้าไปในบัญชีผู้ใช้

การโอนย้ายที่เข้ารหัส

Dropbox จะเข้ารหัสการเข้าใช้งานเครือข่ายด้วย SSL/TLS และใช้การเข้ารหัสแบบ AES 256 บิตสำหรับการจัดเก็บข้อมูล เพื่อปกป้องข้อมูลของบริษัทจากความเสี่ยงด้านการรักษาความปลอดภัย

การปกป้องบัญชี

เครื่องมือรักษาความปลอดภัยขั้นสูงที่ประกอบด้วยการยืนยันแบบสองขั้นตอน การผสานการทำงานกับผู้ให้บริการ SSO และการล้างข้อมูลจากระยะไกลจะทำให้เฉพาะคนที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะเข้าถึงบัญชี Dropbox ของทีมได้

การตรวจสอบอย่างละเอียด

ผู้ดูแลทีม Dropbox Business สามารถติดตามว่ามีการแบ่งปันข้อมูลทั้งภายในและภายนอกบริษัทอย่างไรบ้างได้ด้วยการตรวจสอบกิจกรรมที่ครอบคลุม

คำถามที่พบบ่อย

VPN ย่อมาจาก Virtual Private Network (VPN) ซึ่งใช้เพื่อขยายเครือข่ายส่วนตัวไปทั่วเครือข่ายสาธารณะ เทคโนโลยี VPN ทำให้ผู้ใช้แบ่งปันและรับเนื้อหาผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่แบ่งปันกันหรือแบบสาธารณะ เสมือนกับว่าอุปกรณ์ของผู้ใช้นั้นเข้าสู่ระบบเครือข่ายส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์สำหรับผู้ทำงานระยะไกลหรือสำนักงานประจำภูมิภาคที่ต้องการเข้าถึงไฟล์และข้อมูลจากเครือข่ายหรือเซิร์ฟเวอร์ของสำนักงานใหญ่

ได้ คุณสามารถแบ่งปันไฟล์ได้อย่างปลอดภัยโดยใช้ VPN แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยุ่งยากเลยเสียทีเดียว VPN สามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยได้ แต่คุณไม่สามารถรับรองการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไม่ระบุตัวตนได้อย่างสมบูรณ์ หากต้องการแบ่งปันไฟล์อย่างปลอดภัยโดยใช้ VPN ขั้นแรกคุณต้องกำหนดค่า VPN เสียก่อน ซึ่งอาจเป็นขั้นตอนครั้งใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทรัพยากรด้านไอทีและเงิน จากนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบว่าได้เชื่อมต่อกับ VPN แล้ว โดยลงชื่อเข้าใช้ผ่านซอฟต์แวร์เฉพาะที่มีสิทธิ์การเข้าถึงแบบพิเศษ หลังจากทำตามเงื่อนไขสองข้อแรกแล้ว คุณจึงสามารถแบ่งปันหรือรับไฟล์ที่ต้องการได้

การใช้ Dropbox เป็น VPN ทางเลือกสามารถช่วยลดความคับข้องใจและประหยัดทรัพยากรได้ Dropbox เป็นเสมือนฮับเนื้อหาศูนย์กลาง คุณจะไม่จำเป็นต้องตั้งค่า VPN หรือมอบการเข้าถึงอย่างปลอดภัยให้ผู้ใช้แต่ละราย ทว่าสิ่งที่คุณต้องทำก็คือการจัดเก็บไฟล์ไว้ใน Dropbox และคุณจะสามารถแบ่งปันไฟล์ได้อย่างปลอดภัยและรวดเร็วกับใครก็ตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าพวกเขาจะมีบัญชี Dropbox หรือไม่ก็ตาม เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Dropbox ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับไฟล์ของคุณ