กระบวนการผลิตวิดีโออาจใช้เวลานาน และเข้าสู่การส่งมอบขั้นสุดท้ายหลังจากการวางแผน การทำสตอรีบอร์ด การถ่ายทำ และการตัดต่อนั้นจะไม่ค่อยเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา
การทำงานเป็นทีมบนวิดีโอมักจะหมายความว่าผู้คนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบในขั้นตอนของโครงการแตกต่างกันไป เมื่อทีมอยู่กันกระจัดกระจายและมีการใช้เครื่องมือหลายอย่างพร้อมกัน การติดตามความคืบหน้าอาจเป็นเรื่องยุ่งยากได้
เมื่อเริ่มทำงานไม่ทันกำหนดเวลาหรือมีการขยายเวลาออกไป นั่นคือเวลาที่คุณทราบว่าจำเป็นต้องปรับขั้นตอนการทำงานเสียใหม่ แล้วทีมจะแน่ใจได้อย่างไรว่าโครงการวิดีโอจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นโดยที่บรรลุเป้าหมายและมาตรฐานคุณภาพไปพร้อมๆ กันด้วย
สิ่งนี้เองจึงเป็นที่มาของข้อคิดเห็นอันเป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่แค่ “ลองดูตรงนี้อีกครั้ง” หรือ “ขอคิดดูก่อน” แต่เป็นข้อคิดเห็นที่ตรงไปตรงมา สร้างสรรค์ และมอบให้โดยคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายของวิดีโอ
ก่อนที่เราจะเจาะลึกเกี่ยวกับวิธีการตรวจทานโปรเจ็กต์วิดีโอ มาเริ่มด้วยการอธิบายว่าเหตุใดข้อคิดเห็นจึงมีความสำคัญมากสำหรับสื่อประเภทนี้
เหตุใดการให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการวิดีโอจึงมีความสำคัญ
การให้และรับข้อคิดเห็นถือเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการผลิตวิดีโอ
โดยทั่วไป การสร้างวิดีโอเป็นความพยายามร่วมกัน ซึ่งมักจะรวมไปถึงฝ่ายต่างๆ เช่น ครีเอทีฟ การตลาด และแม้กระทั่งทีมกฎหมาย ข้อคิดเห็นที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้สมาชิกในทีมทุกคนสามารถผลิตผลงานที่ดีที่สุดออกมาได้
ไม่ว่าจะเป็นโครงการเดี่ยวหรือการทำงานเป็นทีม ข้อคิดเห็นสามารถช่วยให้คุณเพิ่มมุมมองที่แปลกใหม่ลงไปในวิดีโอของคุณได้ ผู้ตรวจสอบอาจสามารถเสนอแนวคิดใหม่ๆ หรือแนวทางการเล่าเรื่องแบบอื่นที่ช่วยยกระดับวิดีโอของคุณไปอีกขั้น
ท้ายที่สุดแล้ว ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอที่มีประสิทธิภาพจึงควรเป็นการให้คำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ได้จริง ซึ่งจะทำให้วิดีโอมีความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
วิธีให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิดีโอด้วย Dropbox Replay ใน 3 ขั้นตอนง่ายๆ
Dropbox มอบพื้นที่แบบรวมศูนย์สำหรับการทำงานร่วมกันในโปรเจ็กต์วิดีโอ
รวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิดีโอไว้ในที่เดียวโดยแชร์ลิงก์ไปยังวิดีโอกับผู้ร่วมงานเพื่อตรวจสอบและอนุมัติงาน ผู้ตรวจสอบ—แม้แต่ผู้ที่ไม่มีบัญชี Dropbox—สามารถให้ข้อเสนอแนะที่แม่นยำ มีประสิทธิผล และมีระยะเวลาประทับลงบนวิดีโอได้โดยตรง นี่คือวิธีที่คุณสามารถรวม Dropbox Replay เข้ากับกระบวนการตรวจสอบวิดีโอของคุณได้
ขั้นตอนที่ 1: ดูวิดีโออย่างตั้งใจ
ในฐานะผู้ตรวจสอบ คุณต้องใช้เวลาพอสมควรในการดูวิดีโอทั้งหมด ซึ่งตามจริงแล้วควรดูหลายๆ ครั้ง และให้ข้อคิดเห็นอย่างละเอียด
ทุกครั้งที่คุณดูวิดีโอ ให้เน้นที่องค์ประกอบที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ในการรับชมครั้งแรก ให้พิจารณาเรื่องราวและการไหลของวิดีโอจากมุมมองของผู้ชม วิดีโอสามารถถ่ายทอดข้อความสำคัญในรูปแบบที่ผู้ชมเข้าใจได้ง่ายหรือไม่
จากนั้นลองดูองค์ประกอบภาพและเสียงอย่างใกล้ชิด เหมาะสมกับโทนและข้อความของวิดีโอหรือไม่?
หรือในอีกทาง คุณสามารถสร้างห้องรับชมเสมือนร่วมกับทีมของคุณเพื่อรับชมวิดีโอด้วยกันแบบเรียลไทม์ได้ การตรวจทานผ่านเบราว์เซอร์จะให้คุณสามารถแชร์ลิงก์ได้ ดังนั้นสมาชิกในทีมจึงไม่จำเป็นต้องมีสิทธิ์การเข้าถึงหรือซอฟต์แวร์พิเศษใดๆ
ขั้นตอนที่ 2: แสดงข้อคิดเห็นของคุณ
ในขณะที่คุณดูวิดีโอ คุณสามารถแสดงความคิดเห็นไว้ในการประทับเวลาที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้คำติชมที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำด้วย Dropbox Replay ได้
สิ่งที่ต้องทำมีดังนี้:
ลากแล้ววางเส้นบอกตำแหน่งการเล่นวิดีโอหรือคลิกที่ลำดับเวลาเพื่อเลือกเฟรมที่คุณต้องการจะแสดงความคิดเห็นลงไป
พิมพ์ความคิดเห็นของคุณในช่องข้อความ
คลิกปุ่มโพสต์
ดูความคิดเห็นที่คุณและผู้วิจารณ์คนอื่นๆ โพสต์ไว้ในแผงทางด้านขวาของหน้าจอ
ข้อควรจำ: ความคิดเห็นที่คลุมเครือจะไม่มีประโยชน์ ความคิดเห็นเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้ทีมที่ถ่ายทำและตัดต่อปรับปรุงวิดีโอในแนวทางที่สำคัญได้ การซ่อนข้อคิดเห็นเชิงลบในข้อความ เช่น “ฉันไม่แน่ใจเกี่ยวกับเรื่องนี้” หรือ “ยังไม่ถึงขั้นนั้น” ไม่ได้บ่งชี้ถึงขั้นตอนต่อไปที่นำไปปฏิบัติได้จริง
ในฐานะผู้ที่ให้ข้อคิดเห็น จะเป็นการดีกว่าที่จะสื่อสารอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา โดยจุดอ้างอิงต่างๆ เช่น แนวทางของแบรนด์ อาจช่วยกำหนดทิศทางให้กับทีมถ่ายทำได้
ขั้นตอนที่ 3: รับความเห็นที่สอง (หรือสาม!)
การตรวจทานผ่านเบราว์เซอร์ทำให้ง่ายต่อการแบ่งปันวิดีโอกับผู้ตรวจทานได้มากตามที่ต้องการ รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโปรเจ็กต์ที่สำคัญด้วย ทั้งหมดที่พวกเขาต้องใช้มีเพียงแค่ลิงก์ที่นำไปยังวิดีโอ
แม้ว่าคุณจะดูวิดีโอนี้หลายครั้งแล้วก็ตาม อาจมีบางสิ่งที่คุณไม่ได้สังเกตเห็น บางครั้งคุณใช้เวลานานมากในการดูคลิปซีรีส์เดิมๆ จนพลาดข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ไป!
นั่นคือจุดที่ความคิดเห็นของสมาชิกในทีมอีกคนสามารถช่วยคุณได้ เพื่อนของคุณอาจสังเกตเห็นรายละเอียดเหล่านี้เมื่อพวกเขาตรวจทานวิดีโอจากมุมมองใหม่ๆ พวกเขาสามารถเพิ่มหมายเหตุประกอบของตนเองลงในวิดีโอหรือตอบกลับความคิดเห็นของคุณบนลำดับเวลาได้โดยตรง
เคล็ดลับในการให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับวิดีโอ
ขั้นตอนต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถให้ข้อคิดเห็นที่มีประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ทีมของคุณบรรลุเป้าหมายของโครงการวิดีโอ
มีความเฉพาะเจาะจง ให้คำแนะนำที่นำไปปฏิบัติได้
การเพิ่มความคล่องตัวให้กับขั้นตอนการทำงานจะง่ายขึ้นมากเมื่อผู้ตรวจทานบอกเหตุผลที่พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งจะทำให้เห็นถึงวิธีที่ชัดเจนที่ทีมจะสามารถดำเนินการแก้ไขได้ รวมทั้งบุคคลที่จะเป็นสมาชิกในทีมที่เหมาะที่สุดในการดำเนินการนี้
เคล็ดลับ: ยกตัวอย่างโครงการที่ผ่านมาเพื่อแสดงให้เห็นว่าทีมควรดำเนินการในรายละเอียดเฉพาะ เช่น การเปลี่ยนแปลงหรือเสียงอย่างไร
กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการที่สมเหตุสมผล
สิ่งสำคัญคือทุกคนที่เกี่ยวข้องกับโครงการวิดีโอจะต้องทราบกำหนดเวลาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งรวมถึงขั้นตอนสำคัญต่างๆ เช่นการผลิต การตัดต่อ การตอบรับ และการส่งมอบขั้นสุดท้าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหัวข้อของวิดีโอต้องใช้ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น ทนายความ ซึ่งเป็นเรื่องเฉพาะทางหรือซับซ้อน หรือหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่คุณแนะนำคือการจัดหาฟุตเทจเพิ่มเติม
ตรวจสอบโดยคำนึงถึงกลุ่มเป้าหมาย
คำถามสำคัญที่ต้องถามขณะตรวจทานวิดีโอคือเนื้อหาและการนำเสนอเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายหรือไม่
นอกจากเนื้อหาของวิดีโอแล้ว กลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันอาจมีความคาดหวังหรือมาตรฐานสำหรับคุณภาพของภาพและเสียงที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น วิดีโอกิจกรรมจำเป็นต้องสร้างผลกระทบด้วยหลากหลายการกระทำ แต่คุณอาจต้องการใส่เพลงไว้ในฟุตเทจหากเสียงถ่ายทอดสดเบาเกินไปหรือมีเสียงสะท้อนมาก
เคล็ดลับยอดนิยม: ใช้ข้อมูลเชิงลึกหรือลักษณะเฉพาะของผู้ชมที่คุณมีจากขั้นตอนการวางแผนโปรเจ็กต์ ซึ่งสามารถทำให้ทราบข้อมูลในกระบวนการตรวจทานของคุณและช่วยให้งานเป็นไปตามข้อคิดเห็นของคุณได้
อย่าลืมเป้าหมายของโครงการ
เป้าหมายของโปรเจ็กต์ควรมีความสำคัญลำดับต้นๆ ในขั้นตอนการผลิตวิดีโอทั้งหมด ซึ่งรวมถึงข้อคิดเห็นในทุกๆ ครั้งด้วย
การให้ข้อคิดเห็นที่สอดคล้องกับเป้าหมายของโครงการคือการมองภาพรวมที่กว้างขึ้น ระหว่างการตรวจสอบ ให้เริ่มต้นโดยเน้นถึงด้านที่สำคัญที่สุด เช่น การเล่าเรื่อง และโทนของวิดีโอ จากนั้น คุณจึงสามารถเปลี่ยนไปดูรายละเอียดที่เล็กกว่าได้ เช่น การเลือกช็อตภาพ และการตัดต่อ
รวมข้อคิดเห็นไว้ในที่เดียว
คุณต้องมาหงุดหงิดโดยไม่จำเป็นเมื่อต้องข้ามจากแอปหนึ่งไปอีกแอปหนึ่งเพื่อค้นหาข้อคิดเห็นทางอีเมล ข้อความโดยตรง และเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ
หากสมาชิกในทีมแต่ละคนต้องลงแรงตามหาข้อคิดเห็นที่ไม่ปะติดปะต่อกันจากหลายช่องทาง ขั้นตอนการทำงานทั้งหมดก็จะช้าลง และจะยิ่งน่าสับสนมากขึ้นอีก หากมีข้อมูลที่เข้าใจผิดหรือขัดแย้งกันซึ่งส่งมาจากผู้ตรวจสอบคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งก่อนจะมาถึงทีมผลิตวิดีโอหรือผู้ตัดต่อ
การรวบรวมข้อเสนอแนะและวิดีโอไว้ในที่เดียว เช่น Dropbox Replay จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
ให้ข้อเสนอแนะที่ตรงเฟรมและทำเครื่องหมายบนหน้าจอสำหรับวิดีโอโดยตรงจากเครื่องมือต่างๆ รวมถึง Adobe Premiere Pro, Adobe After Effects, Apple Final Cut Pro, Blackmagic Design DaVinci Resolve, LumaTouch LumaFusion หรือ WeVideo ซึ่งการรวบรวมข้อคิดเห็นจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกระบวนการตรวจทานร่วมกันมากขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่าทุกคนจดจ่อกับงานที่ทำอยู่
รับคำติชมที่แม่นยำเกี่ยวกับโครงการวิดีโอในวันนี้
Dropbox ให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อยกระดับกระบวนการการทำงานร่วมกันบนวิดีโอของคุณ โดยไม่ต้องสูญเสียเครื่องมือและแอปตัดต่อวิดีโอโปรดของคุณ
