วิธีสำรองข้อมูลพีซีที่ใช้ Windows ของคุณไปยังคลาวด์

เมื่อคุณเขียนบทความหรือสรุปโครงการเสร็จแล้ว สิ่งสุดท้ายที่คุณอยากกังวลคือความล้มเหลวของระบบที่ไม่คาดคิดหรือคอมพิวเตอร์ขัดข้อง การสูญเสียข้อมูลถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้ และอาจไม่สามารถเริ่มงานใหม่ตั้งแต่ต้นได้

นอกเหนือจากเอกสารการทำงานที่สร้างขึ้นบนพีซี Windows ของคุณแล้ว คุณอาจได้ถ่ายโอนข้อมูลส่วนตัวอันมีค่า เช่น รูปถ่ายและวิดีโอของครอบครัว จากโทรศัพท์ของคุณไปยังคอมพิวเตอร์เพื่อเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัย นั่นคือข้อมูลสำคัญจำนวนมหาศาลที่ยากต่อการกู้คืนหรือทดแทนหากสูญหายไป

มีความผิดพลาดหลายอย่างที่อาจเกิดขึ้นกับฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก ไฟล์ของคุณอาจตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่ประสงค์ดีหากอุปกรณ์ของคุณถูกขโมย ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคืออุปกรณ์ของคุณอาจล้มเหลวในขณะที่คุณกำลังอัปเดตไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในนั้น หรือข้อผิดพลาดเล็กน้อยของซอฟต์แวร์อาจลบล้างทุกอย่างที่จัดเก็บไว้บนไดรฟ์ของคุณให้หายไป

หากคุณประสบเหตุการณ์น่าหงุดหงิดและอาจเกิดหายนะเหล่านี้ คุณจะดีใจที่ได้สละเวลาสร้างสำเนาสำรองข้อมูลของคุณ การมีกลยุทธ์การสำรองข้อมูลยังช่วยให้ไฟล์ของคุณปลอดภัยจากความเสียหายของอุปกรณ์ การสูญเสียข้อมูลโดยไม่ได้ตั้งใจ แรนซัมแวร์ และการโจมตีทางไซเบอร์อื่นๆ

โซลูชันการสำรองข้อมูล เช่น Dropbox Backup จะทำให้การกู้คืนไฟล์ที่สูญหายเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นมาก ดังนั้นคุณจึงสามารถทำงานต่อจากที่ค้างไว้ได้ ซึ่งแตกต่างจากฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก เพราะด้วย Backup คุณจะสามารถเข้าถึงไฟล์ของคุณได้ทุกที่และทุกเวลาที่คุณต้องการ

ด้วยการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ คุณสามารถปกป้องข้อมูลบนพีซี Windows ของคุณได้ ทำให้มั่นใจได้ว่าคุณสามารถเข้าถึงไฟล์สำคัญได้เสมอ แต่ก่อนที่เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าการสำรองข้อมูลพีซี Windows ของคุณไปยังคลาวด์เป็นเรื่องง่ายเพียงใด มีคำถามสำคัญที่ต้องถาม:

คุณควรสำรองข้อมูลอะไรกันแน่

สิ่งที่ต้องสำรองข้อมูลบนพีซีที่ใช้ Windows ของคุณ

เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณสำรองข้อมูล:

• ไฟล์ส่วนตัว เช่น รูปภาพ วิดีโอ และเพลง
• เอกสาร สเปรดชีต และงานนำเสนอ
• อีเมล
• ฐานข้อมูล
• ข้อมูลโซเชียลมีเดีย

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เกี่ยวกับการสำรองข้อมูลคือ คุณไม่ควรลบข้อมูลต้นฉบับหลังจากที่คุณได้สร้างการสำรองข้อมูลแล้ว ข้อมูลสำรองเป็นสำเนาของข้อมูลของคุณที่อยู่ในที่ที่แยกต่างหาก ไม่ใช่การแทนที่เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลบนอุปกรณ์ของคุณ นั่นเป็นประโยชน์ของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลเฉพาะออนไลน์

อย่าพลาดไฟล์สำคัญไฟล์นั้นเพียงเพราะจัดเก็บไว้ในที่อื่น!

โปรดจำไว้ว่าข้อมูลอาจอยู่ในโฟลเดอร์ที่ไม่ใช่โฟลเดอร์เอกสาร โดยอาจมีใบแจ้งหนี้ PDF ที่สำคัญอยู่ในโฟลเดอร์การดาวน์โหลดของคุณซึ่งคุณได้ลืมไปแล้ว แต่จำเป็นต้องใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านภาษี โชคดีที่บริการต่างๆ เช่น Dropbox Backup ทำให้การสำรองข้อมูลแต่ละไฟล์เป็นเรื่องง่ายพอๆ กับการสำรองข้อมูลทุกข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของคุณ

ฉันควรสำรองข้อมูลทั้งหมดในคอมพิวเตอร์เมื่อใด

เป็นประจำ แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเพิ่งเสร็จสิ้นโปรเจ็กต์ใหญ่ สร้างหรือดาวน์โหลดไฟล์สำคัญ หรือ... เมื่อใดก็ตามที่คุณไม่อยากสูญเสียข้อมูลหากเกิดอะไรขึ้นกับพีซี Windows ของคุณ หากเมื่อใดที่คุณคิดว่า "ฉันไม่อยากสูญเสียไฟล์ (หรือข้อมูล) นั้นจริงๆ" ถึงเวลาแล้วที่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้สำรองข้อมูลไว้แล้ว

นอกจากนี้ ควรสำรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของคุณด้วยหากคุณกำลังเปลี่ยนจากระบบปฏิบัติการรุ่นเก่า เช่น Windows 10 ไปเป็น Windows 11 เนื่องจากนี่เป็นระบบใหม่ ไม่ใช่แค่การอัปเดต การติดตั้ง Windows 11 อาจลบเนื้อหาในคอมพิวเตอร์ของคุณได้

“ฉันต้องการสำรองข้อมูลพีซีที่ใช้ Windows ของฉัน ตัวเลือกของฉันมีอะไรบ้าง”

กลยุทธ์การสำรองข้อมูลที่มีประสิทธิผลที่สุดคือการสร้างสำเนาข้อมูลของคุณอย่างน้อยสามชุดและจัดเก็บไว้ในตำแหน่งที่แตกต่างกันหลายแห่ง ตัวเลือกการสำรองข้อมูลสองตัวนี้ควรเป็นโซลูชันภายในสถานที่ เช่น ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกและแฟลชไดรฟ์

Windows 7 มีซอฟต์แวร์สำรองข้อมูลในตัวที่เรียกว่า สำรองข้อมูลและคืนค่า แต่โปรแกรมนี้ต้องใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลภายนอกจึงจะสำรองข้อมูลไปและกลับได้

จากนั้น Microsoft ได้พัฒนาโปรแกรมสำรองข้อมูลใหม่สำหรับ Windows 8, 10 และ 11 ที่เรียกว่า File History… ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอกหรือตำแหน่งเครือข่ายเพื่อสำรองไฟล์ของคุณด้วย

อย่างไรก็ตาม File History สามารถสร้างการสำรองข้อมูลไฟล์ของคุณโดยอัตโนมัติและจัดเก็บไฟล์เวอร์ชันก่อนหน้านี้ได้ วิธีนี้ทำให้คุณสามารถกู้คืนและเข้าถึงสำเนาไฟล์ก่อนหน้าได้

โซลูชันการสำรองข้อมูลที่สามของคุณควรอยู่นอกสถานที่ ในสภาพแวดล้อมการสำรองข้อมูลทางออนไลน์ เช่น คลาวด์ การสำรองข้อมูลบนคลาวด์จะทำให้ Windows ของคุณได้รับการปกป้องที่ดีที่สุดจากความเสียหายของอุปกรณ์ที่ไม่คาดคิดและการสูญหายของข้อมูล นอกจากนี้ยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการกู้คืนไฟล์เมื่ออัปเกรดหรืออัปเดตระบบปฏิบัติการของคุณ

วิธีการสำรองข้อมูลพีซีที่ใช้ Windows ของคุณด้วย Dropbox Backup

หากต้องการสำรองข้อมูลพีซี Windows ของคุณไปยังคลาวด์ ก่อนอื่นคุณควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยและเสถียร ตามหลักการแล้ว การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณควรจะแรงและรวดเร็ว เพื่อให้กระบวนการสำรองข้อมูลไม่ใช้เวลานานเกินความจำเป็น

ความเร็วและความเรียบง่ายของกระบวนการสำรองข้อมูลบนคลาวด์แตกต่างกันไปตามผู้ให้บริการแต่ละราย โซลูชันที่เหมาะสมที่สุดจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลและทำให้การสำรองข้อมูลพีซี Windows ของคุณเป็นเรื่องง่ายที่สุด

Dropbox Backup ขจัดความเครียดและความสับสนให้หมดจากการสำรองข้อมูลบนคลาวด์ ต่อไปนี้คือวิธีที่คุณสามารถสำรองข้อมูลพีซีที่ใช้ Windows ในสามขั้นตอนง่ายๆ

ขั้นตอนที่ 1: รับแอปเดสก์ท็อป Dropbox และเข้าสู่ระบบบัญชีของคุณ 

• ปิดไฟล์และแอปพลิเคชันใดๆ ที่คุณเปิดไว้บนพีซีของคุณ
• ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปเดสก์ท็อป Dropbox หากคุณยังไม่มีแอปดังกล่าว
  • ในการใช้ Dropbox Backup คุณจะต้องปิดการทำงานของผู้ให้บริการสำรองข้อมูลอื่นๆ เช่น OneDrive
  • เมื่อคุณได้เรียกคืนไฟล์จากผู้ให้บริการสำรองข้อมูลรายเดิมของคุณแล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์เหล่านั้นกลับมาอยู่ในโฟลเดอร์ต้นฉบับบนพีซีของคุณ
• เปิดแอปเดสก์ท็อป Dropbox และลงชื่อเข้าใช้หรือสร้างบัญชีใหม่

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งค่าการสำรองข้อมูล 

• ในถาดระบบของคุณ ให้คลิกที่ไอคอน Dropbox จากนั้นคลิกรูปโปรไฟล์ของคุณ
• เลือกการกำหนดค่า จากนั้นเลือกแถบการสำรองข้อมูล ตามด้วยตั้งค่า
• ใต้หัวข้อเพิ่มการสำรองข้อมูล เลือกพีซีที่คุณต้องการสำรองข้อมูล
• คลิก เริ่มต้นใช้งานกันเลย

ขั้นตอนที่ 3: เลือกไฟล์และโฟลเดอร์ที่คุณต้องการสำรองข้อมูล

• หน้าต่างใหม่จะปรากฏขึ้น ซึ่งคุณสามารถเลือกไฟล์และโฟลเดอร์ที่คุณต้องการสำรองข้อมูลได้
• ทำเครื่องหมายที่ช่องซึ่งอยู่ข้างๆ ไฟล์และ/หรือโฟลเดอร์ที่คุณต้องการสำรองข้อมูล จากนั้นคลิก ตั้งค่าอีกครั้งหรือสำรองข้อมูล
• Dropbox จะเริ่มสำรองข้อมูลของคุณ
  • คุณสามารถใช้พีซีของคุณได้ตามปกติในขณะที่การสำรองข้อมูลกำลังดำเนินไป
• หากสำรองข้อมูลไฟล์ใดๆ ไม่สำเร็จ ระบบจะสร้างทางลัดในบัญชี Dropbox ของคุณที่ชื่อว่าไฟล์บนคอมพิวเตอร์ของฉัน ซึ่งจะพาคุณไปยังตำแหน่งของไฟล์บนพีซีของคุณ
• หลังจากการสำรองข้อมูลเสร็จสมบูรณ์ ไฟล์/โฟลเดอร์ของคุณจะปรากฏใน Dropbox ในชื่อ พีซีของฉัน [ชื่อคอมพิวเตอร์]

อย่ารอให้เกิดข้อผิดพลาด

Dropbox Backup ทำให้การสำรองข้อมูลไฟล์ของคุณไปยังคลาวด์โดยอัตโนมัตินั้นเป็นเรื่องง่าย เพื่อให้คุณสามารถกู้คืนอย่างรวดเร็วและราบรื่นได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในชีวิตของคุณก็ตาม