Table of contents
- คลาวด์มีการทำงานอย่างไร
- ตัวอย่างของการประมวลผลระบบคลาวด์มีอะไรบ้าง
- สภาพแวดล้อมคลาวด์ประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง
- วิธีที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ระบบคลาวด์
- ประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์สำหรับการใช้งานส่วนตัว
- บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยด้วย Dropbox
- คำถามที่ถามบ่อยครั้งเกี่ยวกับการประมวลผลระบบคลาวด์
เป็นไปได้ว่า ถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการบริการประมวลผลระบบคลาวด์ แต่คุณก็คงผ่านการใช้งานคลาวด์มาก่อน
การประมวลผลระบบคลาวด์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า "คลาวด์" หมายถึงงานและบริการที่จัดหาให้หรือโฮสต์ผ่านอินเทอร์เน็ตแบบจ่ายตามที่ใช้งาน ผู้คนสามารถจัดเก็บ ใช้งาน และจัดการข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ในระยะหนึ่ง แต่การประมวลผลระบบคลาวด์ทำหน้าที่นี้ในระดับที่ใหญ่กว่ามาก
เรามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันว่าคลาวด์คืออะไรและมีการทำงานอย่างไร
คลาวด์มีการทำงานอย่างไร
ก่อนอื่น สิ่งสำคัญที่ต้องชี้แจงคือ คลาวด์ยังต้องมีการใช้องค์ประกอบทางกายภาพอยู่ แม้ว่าคุณจะบันทึกไฟล์ลงในคอมพิวเตอร์โดยตรงไม่ได้ แต่ก็ยังจำเป็นต้องแนบไฟล์เหล่านั้นเข้ากับฮาร์ดแวร์บางตัว เมื่อคุณอัปโหลดข้อมูลไปยังบริการคลาวด์อย่าง Dropbox ระบบจะส่งไฟล์ผ่านอินเทอร์เน็ตไปยังเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่มีอยู่จริงและจับต้องได้ ผู้ให้บริการคลาวด์มีเซิร์ฟเวอร์จริงนับร้อยนับพันเซิร์ฟเวอร์ที่รู้จักกันในชื่อ “เซิร์ฟเวอร์ฟาร์ม” ซึ่งตั้งอยู่ในกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูลทั่วโลก
ดังนั้นพูดอย่างง่ายที่สุดได้ว่า คลาวด์คือชุดของกลุ่มเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลที่กระจายอยู่ทั่วโลกที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลได้ ซึ่งหมายความว่า คลาวด์ก็คือหน่วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลที่คุณสามารถเก็บไฟล์ทั้งหมดไว้ได้ หากใช้คลาวด์ คุณจะสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้จากทุกอุปกรณ์ตราบเท่าที่มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต
เมื่อคุณบันทึกไฟล์ไปยังคลาวด์ จะเท่ากับว่าคุณกำลังจัดเก็บไฟล์ดังกล่าวไว้แบบออนไลน์ ใครก็ตามที่มีทรัพยากรและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมก็สามารถโฮสต์คลาวด์ของตนเองได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและไม่ได้มีค่าใช้จ่ายต่ำอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงการใช้บริการคลาวด์ เรากำลังพูดถึงบริการระดับสูงที่จัดหาให้โดยผู้ให้บริการอย่าง Dropbox
เราขอยกไฟฟ้าเป็นตัวอย่าง คงจะมีค่าใช้จ่ายสูงและมีการบำรุงรักษามากอยู่หากคุณจะต้องใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนตัวในบ้านของคุณเอง เราจึงมีผู้ให้บริการด้านพลังงานที่ให้บริการเครื่องกำเนิดไฟฟ้าส่วนกลางที่ใครๆ ก็สามารถใช้ได้โดยการชำระค่าบริการตามการใช้งาน ในทำนองเดียวกัน การจัดหาและจัดเก็บข้อมูลของคุณโดยผู้ให้บริการคลาวด์จะมีประสิทธิภาพและคุ้มต้นทุนมากกว่าการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเอง
ตัวอย่างของการประมวลผลระบบคลาวด์มีอะไรบ้าง
พูดง่ายๆ ที่สุดก็คือ คลาวด์เป็นโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลดิจิทัล แต่ก็มีการบริการบนคลาวด์แบบอื่นอีกมากมาย คุณสามารถแบ่งการประมวลผลระบบคลาวด์ออกเป็นฟังก์ชันหลักสามอย่าง ได้แก่ โมเดลการให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS), การให้บริการด้านแพลตฟอร์ม (PaaS) และการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS)
บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน (IaaS)
IaaS หมายถึงผู้ให้บริการคลาวด์ที่จัดหาพื้นที่เซิร์ฟเวอร์เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ตั้งแต่การจัดเก็บข้อมูลไปจนถึงการโฮสต์เว็บ ในกรณีนี้ คุณจะจัดการข้อมูล เว็บไซต์ หรือแอป ในขณะที่ผู้ให้บริการคลาวด์จะให้เช่าทรัพยากรการประมวลผลเพื่อให้คุณดำเนินการดังกล่าวได้
การใช้ Dropbox สำหรับพื้นที่จัดเก็บไฟล์เป็นตัวอย่างหนึ่งของ IaaS คุณสามารถเข้าถึง แก้ไข และเพิ่มข้อมูลได้ตามต้องการ ในขณะที่ Dropbox ให้บริการเซิร์ฟเวอร์เพื่อโฮสต์ข้อมูลดังกล่าว เกือบทุกเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมต่างก็โฮสต์ผ่านคลาวด์ด้วยโมเดล IaaS
การให้บริการด้านแพลตฟอร์ม (PaaS)
PaaS นั้นคล้ายกับ IaaS แต่ให้การควบคุมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยแก่ผู้ให้บริการคลาวด์
ในอดีต การพัฒนาซอฟต์แวร์และการทดสอบภายในระบบเป็นงานที่ต้องใช้เวลา มีค่าใช้จ่ายสูง และต้องใช้พื้นที่ PaaS ให้บริการแพลตฟอร์มเสมือนสำหรับการพัฒนาและการทดสอบแบ็กเอนด์ โดยให้กรอบการทำงานเสมือนแก่โปรแกรมเมอร์เพื่อใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ออนไลน์ได้ โดยที่ผู้ให้บริการยังคงจัดการกับเซิร์ฟเวอร์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลทั้งหมดอยู่ ดังนั้น แทนที่จะเสี่ยงต่อการสูญเสียจากการพัฒนาและการทดสอบในสำนักงาน โมเดล PaaS จึงเสนอโซลูชันเสมือนให้
การให้บริการด้านซอฟต์แวร์ (SaaS)
SaaS หมายถึงซอฟต์แวร์ใดก็ตามที่ทำงานผ่านคลาวด์ ยกตัวอย่างเช่น Dropbox Sign แอปบนคลาวด์นี้ช่วยให้คุณสามารถลงนามในเอกสารที่มีผลผูกพันทางกฎหมายทางออนไลน์แทนการใช้ปากกาและกระดาษ และแอปสามารถเข้าถึงได้จากอุปกรณ์ใดก็ได้
โมเดล IaaS ให้การควบคุมทรัพยากรของคุณมากที่สุดและรองรับผู้ดูแลระบบสำหรับการโฮสต์และพื้นที่จัดเก็บข้อมูล โมเดล PaaS ให้การควบคุมน้อยกว่าและรองรับนักพัฒนาสำหรับการสร้าง ส่วนโมเดล SaaS จะให้การควบคุมน้อยที่สุดและรองรับผู้ใช้ทั่วไป

สภาพแวดล้อมคลาวด์ประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง
มีสภาพแวดล้อมระบบคลาวด์พื้นฐานสี่ประเภทที่รองรับโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีทุกแบบได้
ระบบคลาวด์สาธารณะ
คลาวด์สาธารณะหมายถึงบริการคลาวด์ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ Amazon Web Services (AWS), Microsoft Azure, Google Cloud และ Google Drive, iCloud และ Dropbox ล้วนเป็นบริการคลาวด์สาธารณะทั้งหมด ใครก็ตามที่ใช้ Dropbox จะเท่ากับว่าไปเช่าพื้นที่เซิร์ฟเวอร์ของ Dropbox บางส่วน
คลาวด์สาธารณะเป็นสภาพแวดล้อมที่ใช้งานร่วมกัน ซึ่งคล้ายกับสำนักงานขนาดใหญ่ แต่ผู้ใช้ปลายทางทุกคนจะมีโต๊ะและตู้เก็บข้อมูลที่ปลอดภัยเป็นของตัวเอง พื้นที่เฉพาะที่มีความปลอดภัยนี้เรียกอีกอย่างว่า “เครื่องเสมือน”
การจำลองเสมือนช่วยให้ผู้ใช้ปลายทางแต่ละคนมีเครื่องเสมือนของตัวเองในพื้นที่แยกที่มีความปลอดภัยบนเซิร์ฟเวอร์จริงอันเดียวกันได้ จึงทำให้การจำลองเสมือนเป็นการใช้ฮาร์ดแวร์จริงในเซิร์ฟเวอร์ได้ดีที่สุด ประสิทธิภาพนี้ช่วยให้ทุกคนสามารถใช้บริการคลาวด์ได้ตามความต้องการในต้นทุนที่ต่ำ
ระบบคลาวด์ส่วนตัว
เครื่องเสมือนและโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ทั้งหมดในระบบคลาวด์ส่วนตัวมีให้บริการลูกค้าเพียงรายเดียว โดยคุณจะยังโฮสต์ทุกอย่างผ่านอินเทอร์เน็ตได้ แต่เซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์ข้อมูลของคุณจะเป็นของคุณเอง บางคนอาจเลือกใช้บริการคลาวด์ส่วนตัวเพื่อเพิ่มความปลอดภัยขึ้นอีก ในขณะที่บางคนอาจจำเป็นต้องใช้คลาวด์ส่วนตัวเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน
ระบบคลาวด์แบบไฮบริด
คลาวด์แบบไฮบริดใช้ประโยชน์จากทั้งเซิร์ฟเวอร์ภายในและเซิร์ฟเวอร์คลาวด์สาธารณะ คุณจึงสามารถเก็บเอกสารที่มีขนาดใหญ่กว่าหรือมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าไว้ในคลาวด์ส่วนตัว แต่เก็บอย่างอื่นไว้บนคลาวด์สาธารณะได้
มัลติคลาวด์
มัลติคลาวด์คือการที่ธุรกิจใช้แพลตฟอร์มคลาวด์สาธารณะหลายแพลตฟอร์มแทนการใช้คลาวด์ส่วนตัวและคลาวด์สาธารณะร่วมกันแบบไฮบริด โซลูชันมัลติคลาวด์มักเกิดขึ้นเนื่องจากผู้ให้บริการคลาวด์หลายรายนำเสนอฟังก์ชันที่แตกต่างกัน โดยที่ธุรกิจหนึ่งอาจต้องการใช้ฟังก์ชันดังกล่าวทั้งหมด
วิธีที่ธุรกิจต่างๆ ใช้ระบบคลาวด์
ประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์สำหรับธุรกิจนั้นเป็นมากกว่าบทบาทในฐานะโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ใช้งานง่าย การประมวลผลระบบคลาวด์ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มประสิทธิผล ประสิทธิภาพ การเติบโต และการจัดระเบียบสถานที่ทำงานที่ทันสมัย ตัวอย่างประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์มีดังนี้
ประหยัดค่าใช้จ่าย
การทำทุกอย่างที่สำนักงานอาจมีค่าใช้จ่ายสูงมาก การบำรุงรักษาระบบและอุปกรณ์ไอทีในสำนักงานเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นต่อระบบคลาวด์ เนื่องจากเป็นการบริการแบบจ่ายตามการใช้งาน การประมวลผลระบบคลาวด์จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากในส่วนของฮาร์ดแวร์ การจ้างพนักงาน และการใช้พลังงาน นอกจากนี้ การใช้เวลาน้อยลงในการจัดการปัญหาด้านไอทีก็ทำให้คุณมีเวลาในการมุ่งเน้นไปยังเป้าหมายของคุณมากขึ้น
การกู้คืนจากภัยพิบัติ
การสํารองข้อมูลไฟล์และข้อมูลที่สําคัญทั้งหมดของคุณไปยังคลาวด์จะช่วยเพิ่มการป้องกันที่สำคัญ คุณจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างมากหากเก็บทุกอย่างไว้ในที่เพียงแห่งเดียว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ ไปจนถึงการโจมตีของมัลแวร์ ก็อาจทำให้คุณไม่เหลืออะไรเลยได้ทุกเมื่อ ดังนั้น คลาวด์จึงให้การบริการที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยการสำรองข้อมูลของคุณไว้บนเซิร์ฟเวอร์ต่างๆ ในหลายๆ ที่
ปกป้องและรักษาความปลอดภัยข้อมูล
ถึงแม้จะขัดกับความเชื่อของบางคน บริการประมวลผลระบบคลาวด์มีการรักษาความปลอดภัยบนคลาวด์ที่ยอดเยี่ยมแก่ข้อมูลส่วนตัวของคุณ คุณอาจคิดว่าการเก็บทุกอย่างไว้ในที่ที่คุณสามารถมองเห็นได้นั้นปลอดภัยกว่า แต่คลาวด์ก็เป็นเหมือนกับตู้นิรภัยของธนาคาร ผู้ให้บริการคลาวด์จะเข้ารหัสข้อมูลของคุณเพื่อความปลอดภัยและการป้องกันเป็นอันดับแรก
เช่นเดียวกับตู้นิรภัยของธนาคารที่เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บรักษาของมีค่า คลาวด์ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุด และในกรณีส่วนใหญ่ คุณจะสามารถตั้งค่าความปลอดภัยของคุณเองเพื่อให้บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ทำงานแทนคุณได้
ความสามารถในการปรับขนาดได้
การประมวลผลระบบคลาวด์ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการเติบโต ยิ่งธุรกิจของคุณมีขนาดใหญ่มากเท่าไร คุณจะต้องมีพื้นที่ เวลา และเงินในการดำเนินงานมากเท่านั้น การใช้คลาวด์ตามที่จำเป็นได้นั้นก็ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนที่สนับสนุนการเติบโตนี้ได้
ในทางกลับกัน หากธุรกิจถดถอยลง คุณก็อุ่นใจได้ว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายค่าอุปกรณ์หรือทรัพยากรที่ไม่ต้องการอีกต่อไป หากใช้การบริการประมวลผลระบบคลาวด์ คุณจะต้องจ่ายให้กับสิ่งที่คุณใช้เท่านั้น
ความคล่องตัว
เนื่องจากคุณจัดเก็บและดำเนินการทุกอย่างผ่านคลาวด์ คุณจึงมีความยืดหยุ่นในการทำงานจากทุกที่ ในขณะที่แนวคิดด้านสถานที่ทำงานยังคงมีการเปลี่ยนแปลงตลอด การประมวลผลระบบคลาวด์ได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญในการช่วยให้บริษัทต่างๆ ทำงานแบบเสมือนได้ นอกจากนี้ การประมวลผลระบบคลาวด์ยังช่วยในเรื่องการเชื่อมต่อ ทำให้สามารถเข้าถึงไฟล์และข้อมูลจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อีกด้วย
การทำงานร่วมกัน
การทำงานร่วมกันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะไม่เพียงแต่จะบันทึกไฟล์ได้เท่านั้น คุณยังสามารถสร้างและแก้ไขในระหว่างที่ไฟล์จัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยในระบบคลาวด์อีกด้วย การประมวลผลระบบคลาวด์ช่วยให้คุณสามารถให้ทีมงานสิบคนทำงานจากสถานที่ต่างๆ ในเอกสารเดียวกันได้ ความสามารถนี้ทำให้การจัดระเบียบและการจัดการทรัพยากรภายในทีมเป็นเรื่องง่ายกว่าที่เคย
ประโยชน์ของการประมวลผลระบบคลาวด์สำหรับการใช้งานส่วนตัว
มีหลายวิธีที่คุณจะได้รับประโยชน์จากการใช้โซลูชันระบบคลาวด์ที่บ้าน
แน่นอนว่าข้อได้เปรียบที่ชัดเจนที่สุดคือพื้นที่หน่วยความจำที่คุณจะประหยัดบนอุปกรณ์ของคุณ หากคุณไม่ได้ใช้บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์อยู่ในขณะนี้ ไฟล์ส่วนใหญ่ของคุณอาจบันทึกไว้บนคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของคุณ หากคุณไม่มีที่ว่างเหลืออยู่ในอุปกรณ์นั้น คุณก็อาจเลือกใช้ฮาร์ดไดรฟ์ภายนอก และถ้าหากพื้นที่ดังกล่าวเต็มแล้ว คุณก็จะหาซื้อฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกไดรฟ์ที่สองและฮาร์ดไดรฟ์ภายนอกอื่นต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งทำให้การหาเอกสารเก่าๆ ที่คุณต้องการโดยด่วนนั้นเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมากในทันที
การบันทึกไฟล์ทั้งหมดของคุณไว้ในพื้นที่เสมือนแห่งเดียวที่ไม่กินพื้นที่ส่วนตัวของคุณเลยนั้น จะช่วยให้คุณสามารถจัดระเบียบและควบคุมทุกอย่างได้ พร้อมกับให้คุณได้ประหยัดเงินในการซื้อฮาร์ดแวร์ และยังช่วยปรับปรุงความสามารถในการประมวลผลของระบบปฏิบัติการของคุณได้อีกด้วย เนื่องจากคุณได้ย้ายไฟล์จำนวนมากของคุณไปไว้บนคลาวด์แล้ว
การแบ่งปันกับคนที่คุณรักจะกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นด้วย ตัวอย่างเช่น คุณจะสามารถตั้งค่าอัลบั้มรูปภาพร่วมกันที่ทุกคนในครอบครัวสามารถเข้าถึงได้
กำหนดนิยามการประมวลผลระบบคลาวด์ใหม่ สนับสนุนให้ผู้อ่านลองเพิ่มพื้นที่ว่างบนอุปกรณ์ของตน และปิดท้ายด้วย CTA สำหรับพื้นที่ทำงานอัจฉริยะของ Dropbox

บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยด้วย Dropbox
การประมวลผลระบบคลาวด์ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลของคุณจากทุกอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และ Dropbox ช่วยทำให้ง่าย อย่างที่ไม่เคยง่ายอย่างนี้มาก่อน
Dropbox กำลังสร้างพื้นที่งานที่ชาญฉลาดแห่งแรกของโลก การเชื่อมโยงเนื้อหาและเครื่องมือที่คุณใช้ทั้งหมดเข้าด้วยกัน จะทำให้สามารถเข้าถึงทุกอย่างได้อย่างง่ายดายในแอปเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของ Dropbox ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีการสลับไปมาระหว่างแพลตฟอร์ม แอป และเนื้อหาอีกต่อไป โดยคุณสามารถใช้งานพื้นที่งานที่ชาญฉลาดได้จากที่แห่งเดียว ทำให้มีการจัดการด้านไอทีที่มีความยืดหยุ่น
และคุณสามารถวางใจได้ว่าไฟล์ส่วนตัวของคุณจะปลอดภัยพอๆ กับเอกสารงานของคุณ โครงสร้างพื้นฐานการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงของ Dropbox จะปกป้องไฟล์ของคุณจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณจึงสามารถเพิ่มพื้นที่ว่างบนอุปกรณ์ของคุณและรักษาความปลอดภัยในระบบคลาวด์
คำถามที่ถามบ่อยครั้งเกี่ยวกับการประมวลผลระบบคลาวด์
ใช่! Dropbox เป็นบริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์ที่ช่วยให้บุคคลทั่วไปและธุรกิจสามารถจัดเก็บ แชร์ และแก้ไขไฟล์ได้อย่างปลอดภัยในระบบคลาวด์
บริการพื้นที่จัดเก็บบนคลาวด์แบบไฮบริดจะรวมการใช้เซิร์ฟเวอร์คลาวด์ทั้งภายในและภายนอกเข้าไว้ด้วยกันเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บไฟล์ เมื่อจัดเก็บไฟล์ขนาดใหญ่หรือไฟล์ที่เป็นความลับ การเก็บไฟล์เหล่านี้ไว้ภายในองค์กรอาจจะเป็นประโยชน์ ในขณะที่ไฟล์อื่นๆ สามารถจัดเก็บไว้บนระบบคลาวด์สาธารณะได้ เมื่อใช้ผู้ให้บริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์แบบไฮบริด คุณจะสามารถใช้การจัดเก็บข้อมูลทั้งสองวิธีนี้ได้บนแพลตฟอร์มเดียว
ผู้ให้การบริการคลาวด์คือบริษัทที่ให้บริการผลิตภัณฑ์ที่มีระบบคลาวด์เป็นองค์ประกอบ ซึ่งอาจเป็นแพลตฟอร์ม โครงสร้างพื้นฐาน แอปพลิเคชัน หรือโซลูชันพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบใช้ระบบคลาวด์ แทนที่จะเป็นเจ้าของกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ศูนย์ข้อมูลของคุณเอง การจัดเก็บข้อมูลของคุณผ่านผู้ให้การบริการคลาวด์แบบจ่ายตามการใช้งานจะช่วยให้คุณประหยัดได้ทั้งเงินและเวลา